เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini มี มอก. รับรอง

บทความนี้ผมจะพามารู้จักกับเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ Smart Air แบรนด์เครื่องฟอกอากาศ ที่เน้นสร้างอากาศบริสุทธิ์ แบบไม่ต้องมีลูกเล่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกอากาศอะไรให้มากมาย เพื่อเน้นการให้ต้นทุนที่ถูกลง แต่ไปมุ่งเน้นการฟอกอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแทนภายใต้คอนเซ็ปต์ “No tricks, No gimmicks, Fair price.” หรือถ้าแปลเป็นไทยง่าย ๆ ก็คือ “ตรงไปตรงมา ไม่มีลูกเล่น ราคาเป็นธรรม” นั่นเองครับ
และหลังที่จากลองใช้หลายแบรนด์มาแล้ว ทั้งแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และมีราคาสูง มีทั้งแบบมีหน้าจอ สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน และควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือได้ หรือฟีเจอร์อัจฉริยะสารพัด แต่สุดท้ายที่ผมเลือกใช้จริง และใช้ต่อเนื่องยาว ๆ ก็คือของ Smart Air เพราะมันไม่ได้แค่ดูดี แต่เน้นประสิทธิภาพจริง ไม่เน้นฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะ 2 รุ่นที่ผมใช้และจะมารีวิว คือ Blast (บลาสต์) และ Blast Mini (บลาสต์มินิ) ซึ่งเป็น เครื่องฟอกอากาศ ที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่กว้างโดยเฉพาะ
โดยเครื่องฟอกอากาศ Smart Air ในตระกูล Blast นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยนั่นก็คือ Blast ที่รองรับพื้นที่ขนาดใหญ่ (ขนาดตัวของมันก็ใหญ่เช่นกัน) และ Blast Mini (ขนาดเล็กลงมาหน่อย แต่ก็ยังจัดว่าใหญ่อยู่ดี) ลองมาดูภาพรวมของแต่ละรุ่นกันเลยครับ
*ที่รีวิวคู่กันไปเลยเพราะว่า กลไกและระบบทุกอย่างของเครื่องเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันที่ขนาดของตัวเครื่อง และแผ่นกรองอากาศเท่านั้น
- รู้จักเครื่องฟอกอากาศ Blast
- รู้จักเครื่องฟอกอากาศ Blast Mini
- ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่อง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวเครื่อง
- สำรวจส่วนประกอบของตัวเครื่อง
- ระหว่าง 2 เครื่องนี้ เลือกเครื่องตัวไหนดี ?
- การบำรุงรักษาตัวเครื่อง
- การติดต่อสั่งซื้อ และ การรับประกัน
- การติดต่อสั่งซื้อ และ การรับประกัน
ด้านล่างนี้คือคลิปวิดีโอรีวิว และแนะนำเครื่องฟอกอากาศ Smart Air Blast และ Smart Air Blast Mini สำหรับใครที่พอมีเวลา ลองรับชมคลิปนี้ก่อนอ่านรีวิวได้เลยครับ จะได้เข้าใจตัวผลิตภัณฑ์นี้ได้ง่ายขึ้น
รู้จักเครื่องฟอกอากาศ Blast

เครื่องฟอกอากาศ Blast จัดว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่กว้างโดยเฉพาะ รองรับพื้นที่ได้ถึง 150 ตารางเมตร (sq m) และสามารถฟอกอากาศให้สะอาด แบบครอบคลุมทั้งห้องได้ภายในเวลาประมาณ 25 นาที เท่านั้น
เครื่องนี้มาพร้อมพลังกรองระดับสูงด้วย ค่าอัตราการนำส่งอากาศสะอาด (ค่า CADR) อยู่ที่ 950 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m³/h) (หรือเทียบเท่า 559 CFM) ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ที่แรงเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มเลยก็ว่าได้
และถึงแม้ตัวเครื่องจะทำงานได้แรงขนาดนี้ แต่เสียงในขณะที่มันกำลังทำงานกลับเงียบเกินคาด โดยมีระดับเสียงสูงสุดอยู่ที่เพียง 43 เดซิเบล (dB) ซึ่งจากตารางเปรียบเทียบระดับเสียงหลาย ๆ แหล่ง เสียงระดับนี้ก็จะอยู่ในระดับฝนตกเบา ๆ เงียบกว่าเครื่องของแบรนด์ดังหลายรุ่นถึง 20–25 dB เลยทีเดียว
ในขณะที่ระบบกรองอากาศของ Blast ใช้ แผ่นกรองอากาศ HEPA เกรด H13 (ฝุ่นมีโอกาสหลุดลอดผ่านกลับออกไปได้ 0.05%) ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในวงการแพทย์ สามารถกรองฝุ่น PM 2.5, เชื้อไวรัส, แบคทีเรีย, ขนสัตว์ และสปอร์เชื้อราได้มากกว่า 99.95% กันเลยทีเดียว
แผ่นกรองอากาศของ เครื่องฟอกอากาศ Blast รุ่นนี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก หากใช้งานในสภาพอากาศประเทศไทยโดยเฉลี่ยสามารถอยู่ได้ 18–24 เดือนกันเลยทีเดียว แถมถ้าจะเปลี่ยนก็ไม่แพง และยังเปลี่ยนไม่ยากอีกด้วยเช่นกัน (สามารถเปลี่ยนได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งช่าง)
รู้จักเครื่องฟอกอากาศ Blast Mini

เครื่องฟอกอากาศ Blast Mini เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการใช้งานเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดกะทัดรัดลง แต่ก็ยังมีพลังแรงพอสำหรับพื้นที่กว้าง ตัวนี้จัดว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก รองรับพื้นที่ได้ถึง 100 ตารางเมตร
ตัวนี้มี ค่าอัตราการนำส่งอากาศสะอาด (ค่า CADR) อยู่ที่ 740 (หรือประมาณ 435 CFM) แม้จะน้อยกว่ารุ่นใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น ห้องนอนใหญ่ ห้องนั่งเล่น หรือออฟฟิศ เป็นต้น
ในขณะที่เสียงตอนทำงานก็ถือว่าเงียบมาก สูงสุดประมาณ 49 dB ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ใช้งานในเวลากลางคืนได้สบาย ๆ
ด้านระบบกรองอากาศ ก็ใช้ แผ่นกรองอากาศ HEPA H13 เช่นเดียวกับรุ่นพี่ของมันอย่าง Blast สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กระดับ PM2.5 และไวรัสได้มากกว่า 99.95% (ฝุ่นเล็ดลอดออกไปได้แค่เพียง 0.05% เช่นกัน)
กรอง HEPA ของรุ่นนี้มีอายุการใช้งานประมาณ 12–17 เดือน ขึ้นอยู่กับความถี่ในการเปิดใช้งานและสภาพฝุ่นในแต่ละพื้นที่
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini
คุณลักษณะ (Characteristic) |
Blast | Blast Mini |
1. ลักษณะทางกายภาพ และ ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค (Physical Attributes and Technical Specs) | ||
รูปทรงของตัวเครื่อง (Machine Shape) |
เหลี่ยม | เหลี่ยม |
ขนาดมิติ กว้าง x ลึก x สูง (มม.) (Dimension – W x D x H) (mm) |
570 x 330 x 1,230 | 570 x 330 x 630 |
น้ำหนักเครื่อง (กก.) (Net Weight) (kg) |
36 | 26 |
ไฟเข้า (Input) |
AC 220-240V 50/60 Hz | AC 220-240V 50/60 Hz |
ความยาวสายไฟ (เมตร) (Power Cord Length) (m.) |
2.0 | 2.0 |
อัตราการกินไฟ (วัตต์) (Power Consumption) (Watts) |
|
|
อัตราการส่งอากาศสะอาด (ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง) (Clean Air Delivery Rate or CADR) (m3/h) |
|
|
ระดับเสียง (เดซิเบล) (Noise Level) (dB) |
|
|
2. ความสามารถด้านการฟอกอากาศ (Purification Features) | ||
พื้นที่รองรับ (ตารางเมตร) (Area Coverage) (m2) |
150 | 100 |
ขั้นตอนการกรองอากาศ (Air Purification Steps) |
2+1 | 2+1 |
รูปแบบแผ่นกรองอากาศ (Air Filter Types) |
|
|
ระบบปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Charging System) |
✕ | ✕ |
3. โหมดการทำงานหลัก (Operating Modes) | ||
ระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศ (Vacuum Fan Speed Level) |
3 | 3 |
โหมดอัตโนมัติ (Auto Mode) |
✕ | ✕ |
โหมดนอนหลับ หรือ โหมดกลางคืน (Sleep Mode or Night Mode) |
✕ | ✕ |
4. คุณสมบัติ และความสามารถเสริม (Additional Features) | ||
การแสดงค่าฝุ่นละอองเป็นตัวเลข (PM 2.5 Indicator) |
✕ | ✕ |
แถบสีบอกสถานะคุณภาพอากาศ (Air Quality Indicator Light) |
✕ | ✕ |
ระบบตั้งเวลาเปิดเครื่องอัตโนมัติ (Automatic Switch On) |
✕ | ✕ |
ระบบตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ (Automatic Switch Off) |
✕ | ✕ |
การล็อกปุ่มกดบนตัวเครื่อง (Child Lock) |
✕ | ✕ |
ฟังก์ชันจดจำการตั้งค่า (Memory Function) |
✕ | ✕ |
การแจ้งเตือนทำความสะอาด และ เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ (Clean and Replace Filter Indicators) |
✕ | ✕ |
เซนเซอร์ตรวจจับฝาปิดแผ่นกรองอากาศ (Filter Door Detection Sensor) |
✕ | ✕ |
การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน (Smartphone Control) |
✕ | ✕ |
ล้อเลื่อนรับน้ำหนัก (Castor Wheel) |
✔ (สามารถล็อกล้อได้) |
✔ (สามารถล็อกล้อได้) |
คุณสมบัติ และความสามารถของ เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า เครื่องฟอกอากาศ Blast เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของประสิทธิภาพการกรองอากาศ มากกว่าการใส่ฟีเจอร์ หรือลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปมากมาย และถึงแม้ว่ามันจะไม่มีลูกเล่นอะไรมาให้มากมาย แต่สุดท้ายผมก็รวบรวมจุดเด่นน่าสนใจมาให้ 5 ข้อ ลองมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง ?
1. ดีไซน์เรียบง่าย แต่แข็งแรง และได้มาตรฐาน

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมชอบเครื่องฟอกอากาศ Blast กับ Blast Mini นั้น ตั้งแต่แรกเห็นเลยคือดีไซน์ครับ มันไม่มีจอ ไม่มีไฟกระพริบ ไม่มีรีโมทหรือแอปควบคุมให้วุ่นวาย แต่ทั้งหมดนั้นกลายเป็น “ข้อดี” ที่ทำให้เกิดความแตกต่างกับตัวอื่น ๆ ไปเลยในแง่ของการใช้งานจริง
ตัวเครื่องถูกออกแบบมาเน้นการใช้งานล้วน ๆ หน้าตาอาจดูเรียบ ๆ แต่ใช้วัสดุเป็นเหล็กทั้งตัว แข็งแรงกว่าพลาสติกทั่วไปเยอะมาก เคยมีครั้งหนึ่งผมเผลอเข็นไปชนขอบโต๊ะ ยังไม่มีแม้แต่รอยบุบ (กลับกันโต๊ะจะบุบแทน ฮาๆ)

นอกจากนี้แล้ว เครื่องฟอกอากาศทั้ง 2 ตัว (ทั้ง Blast และ Blast Mini) ยังได้รับเครื่องหมาย มอก. นั่นหมายความว่าเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) (TSI) เพื่อบ่งบอกว่าสินค้ามีคุณภาพตามมาตรฐาน มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยเขามีรหัสคิวอาร์ (QR Code) ให้สามารถสแกนเข้าไปดูรายละเอียดบน เว็บไซต์ของ สมอ. (Tisi.go.th) ได้โดยตรงอีกด้วย
2. ใช้งานง่ายสุด ๆ
ในเรื่องของการควบคุมก็ง่ายสุด ๆ แค่หมุนสวิตซ์ควบคุมที่อยู่ด้านหลังเครื่องเพื่อปรับความแรงลม มีให้เลือก 3 ระดับ ไม่ต้องกดหลายปุ่ม และไม่ต้องเข้าเมนูอะไรเลย เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการความวุ่นวายหรือซับซ้อนใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านมีผู้สูงอายุพักอาศัยอยู่ในบ้าน
3. แผ่นกรอง HEPA ประสิทธิภาพสูง เกรดการแพทย์

เครื่องฟอกอากาศ ทั้งสองรุ่นใช้ แผ่นกรองอากาศ HEPA เกรดเดียวกัน นั่นก็คือ “เกรด H13” ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด หรือโรงพยาบาล โดยตัวเลขที่เขาเคลมไว้คือสามารถกรองอนุภาคเล็กขนาด 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.95% (ฝุ่นหรืออนุภาคต่าง ๆ สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เพียง 0.05% เท่านั้น) ซึ่งแน่นอนว่ามันสามารถกรองพวกฝุ่น PM 2.5, ละอองเกสรดอกไม้, แบคทีเรีย, ไวรัส รวมไปจนถึงเส้นขนสัตว์เล็ก ๆ ได้อย่างหมดจด
แผ่นกรองอากาศ HEPA เกรด H13 ตัวนี้มีความหนาอยู่ที่ประมาณ 2 นิ้ว (หรือประมาณ 5 เซนติเมตร) ช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้แล้วทางแบรนด์ยังมีออปชันเสริมอย่างแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Filter) ให้ด้วย (จำหน่ายเพิ่ม) สำหรับคนที่ต้องการจะกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) อย่างเช่นพวกน้ำยาทาเล็บ กลิ่นสี ทินเนอร์ ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกรองอากาศให้สมบูรณ์แบบ
4. มีล้อเลื่อนรับน้ำหนัก เคลื่อนย้ายสะดวก

เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini มาพร้อมดีไซน์ที่เน้นความคล่องตัวสูงด้วย โดยเขาให้ล้อเลื่อรับน้ำหนัก (Caster Wheel) ขนาด 1.5 นิ้ว ให้มาทั้ง 4 ด้าน (2 รุ่นให้มาเหมือนกันหมด) และมันยังเป็นล้อที่สามารถล็อกได้อย่างมั่นคง (Lockable Wheel) ทำให้คุณเคลื่อนย้ายเครื่องไปไหนมาไหนได้อย่างง่ายดาย ไหลลื่น แต่ยังคงความปลอดภัย โดยไม่ต้องออกแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนภายในห้อง หรือเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณต่าง ๆ ในอาคาร ก็ตอบโจทย์การใช้งานที่ยืดหยุ่นได้ ในขณะเดียวกันด้วยความที่ล้อมันสามารถล็อกได้ ก็ทำให้มีความปลอดภัยที่สูงอีกด้วยเช่นกัน

และถึงแม้ว่าตัว Blast Mini จะมีขนาดที่เล็กกว่าตัว Blast แต่ก็ยังให้ตัวล้อเลื่อนรับน้ำหนักมาด้วย เพื่อความสะดวกในการง่ายต่อการเคลื่อนย้าย สามารถวางได้ในทุกพื้นที่ที่คุณต้องการ
5. มอเตอร์พัดลมดูดอากาศขนาดใหญ่ เกรดอุตสาหกรรม

เครื่องฟอกอากาศทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้พัดลมดูดอากาศขนาดใหญ่ที่เป็นเกรดอุตสาหกรรม (Industrial-Grade Vacuum Fan) รองรับการใช้งานที่หนักหน่วง สามารถนำไปเปิดในพื้นที่ ที่ให้บริการสาธารณะอย่าง ได้สบาย ๆ เพื่อไปหมุนใบพัดกรงกระรอก (Squirrel-Cage Fan Impeller) ขนาด 11 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่มาก ๆ แรงลมเหลือ ๆ
6. ถึงเครื่องจะใหญ่ แต่ค่าไฟถูก
หนึ่งในคำถามที่ผมมักเจอเวลาแนะนำเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ให้กับผู้ที่เข้ามาสอบถามคือ “ตัวเครื่องใหญ่ขนาดนี้ กินไฟเยอะหรือเปล่า ?” ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผมก็แอบกังวลเรื่องนี้ตอนจะใช้ครั้งแรกเหมือนกันกับ Blast กับ Blast Mini เพราะตัวเครื่องใหญ่พอสมควร
แต่พอได้ใช้จริง กลับพบว่าค่าไฟไม่ได้สูงเลย แม้จะเปิดทุกวัน วันละหลายชั่วโมงก็ตาม โดยรุ่น Blast Mini มีกำลังไฟสูงสุดอยู่ที่ 115 วัตต์ ส่วนรุ่น Blast อยู่ที่ 118 วัตต์ เท่านั้น
สำรวจส่วนประกอบของตัวเครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini

- Front Plate (แผ่นปิดด้านหน้าเครื่อง)
- HEPA Filter (แผ่นกรองอากาศ HEPA)
- Top Plate or Top Cover (แผ่นปิดด้านบน)
- Pre-Filter (แผ่นกรองอากาศชั้นต้น)
- Power Cable (สายไฟ)
- Lockable Wheels (ล้อที่สามารถล็อกได้)
- Carbon Filter (แผ่นกรองคาร์บอน) (ขายแยก)
เลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี ระหว่าง Blast และ Blast Mini ?
➤ เลือก Blast ถ้า
- ต้องการเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ที่ให้พลังการกรองสูงสุด
- มีพื้นที่กว้าง เช่น ห้องประชุมขนาดใหญ่ ฟิตเนส โถงสำนักงาน หรือพื้นที่เปิดโล่งขนาด 120–150 ตารางเมตร
- ต้องการฟอกอากาศให้สะอาดเร็วในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก
- ไม่กังวลเรื่องขนาดหรือน้ำหนักของตัวเครื่อง
➤ เลือก Blast Mini ถ้า
- มีพื้นที่ขนาดกลาง เช่น ห้องเรียน ห้องประชุมขนาดเล็ก บ้าน หรือคอนโด ขนาดใหญ่ 60–100 ตารางเมตร
- ต้องการเครื่องที่เล็กกว่า เคลื่อนย้ายง่ายกว่า น้ำหนักเบากว่า
- อยากได้ประสิทธิภาพใกล้เคียง Blast แต่ในขนาดที่กะทัดรัดกว่า
- ใช้ในพื้นที่ที่ไม่ได้ต้องการความแรงสุดตลอดเวลา
การบำรุงรักษา เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini
การบำรุงรักษา เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini นั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมาก มีแค่นำเอาแผ่นกรองอากาศชั้นต้น (Pre-Filter) ที่ถูกติดตั้งอยู่ที่ด้านนอกสุด (อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง) มีลักษณะเป็นตาข่ายซี่เล็ก ๆ ไปปัดฝุ่น หรือล้างด้วยน้ำสะอาดได้ง่าย ในขณะที่แผ่นกรองอากาศ HEPA และแผ่นกรองคาร์บอน ผมไม่แนะนำให้ทำความสะอาดใด ๆ (ห้ามล้างน้ำ) แนะนำให้เปลี่ยนอย่างเดียว
ในส่วนของการถอดแผ่นกรองอากาศหลัก ๆ ก็ง่ายมากเพียงแค่ขันน็อตยึดตามจุดต่าง ๆ และทำตามขั้นตอนวิธีในคู่มือการใช้งานก็เป็นอันเสร็จพิธี โดยเครื่องนี้จะไม่ใช่สลักล็อกแต่อย่างใด เพราะเสี่ยงต่อการแตกร้าว หรือหัก อันนี้ใช้น็อตแบบเกลียว แม้จะเป็นวิธีพื้น ๆ ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน แต่คงทนแข็งแรงแน่นอน
ส่วนรายละเอียดราคาอะไหล่ของแผ่นกรองอากาศ ก็อยู่ด้านล่างนี้
ประเภทแผ่นกรอง / รุ่น (Filter Types / Model) |
Blast | Blast Mini |
แผ่นกรองอากาศ HEPA H13 (HEPA H13 Filter) |
3,950 บาท | 2,950 บาท |
แผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Filter) |
2,950 บาท | 1,950 บาท |
ปปป
การรับประกัน และ การสั่งซื้อ เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini
1. Product Warranty Details (รายละเอียดการรับประกันสินค้า)
การรับประกันของ เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini อยู่ที่ 1 ปี นับจากวันสั่งซื้อ โดยเป็นการรับประกันที่เกิดขึ้นจากการผลิต และการใช้งานโดยปกติเท่านั้น แต่การรับประกันนี้ไม่ครอบคลุมไปถึง อุปกรณ์สิ้นเปลืองใด ๆ อย่างแผ่นกรองอากาศทั้งหมด รวมไปถึง การใช้งานที่ผิดประเภท
2. Where to buy the product ? (สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ไหน ?)
คุณสามารถซื้อ เครื่องฟอกอากาศ เหล่านี้ นี้ได้ผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ Shopee, Lazada หรือ จะติดต่อสอบถามก่อนได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ด้านล่างนี้ได้เลย
- Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 080-626-6140
- Website (เว็บไซต์) : https://wedo-air.com/
- Email : (อีเมล) : info@wedo-air.com
- LINE Official Account (บัญชีไลน์ธุรกิจ) : @smartairth
- Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : “WEDO AIR Thailand”
บทสรุปการใช้งาน ข้อดี-จุดสังเกตของ เครื่องฟอกอากาศ Blast และ Blast Mini

ข้อดี 🙂
- ประสิทธิภาพการฟอกอากาศสูงมาก : ด้วยค่า CADR ที่สูง (740 ลบ.ม./ชม. สำหรับรุ่น Blast Mini และ 950 ลบ.ม./ชม. สำหรับรุ่น Blast) ทำให้สามารถฟอกอากาศในห้องขนาดใหญ่ให้สะอาดได้อย่างรวดเร็ว
- ครอบคลุมพื้นที่กว้าง : เป็น เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาสำหรับห้องขนาด 100 ตร.ม. (รุ่น Mini) ไปจนถึง 150 ตร.ม. (รุ่น Blast ) ได้อย่างสบายๆ
- แผ่นกรองอากาศคุณเกรดการแพทย์ : ใช้แผ่นกรอง HEPA H13 ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคที่เล็กมาก เช่น ฝุ่น PM2.5, ไวรัส, และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างหมดจด
- ทำงานเงียบ : เมื่อเทียบกับความแรงของเครื่อง ระดับเสียงที่ 36–49 เดซิเบลถือว่าเงียบมาก ไม่รบกวนสมาธิหรือการพักผ่อน
- ประหยัดไฟ : กินไฟไม่เยอะอย่างที่คิด ค่าไฟต่อเดือนจึงไม่สูงอย่างที่หลายคนกลัว
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน : ควบคุมเปิด-ปิดเครื่อง ด้วยปุ่มหมุนปรับความเร็วของพัดลมดูดอากาศ แบบเรียบง่าย ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียนรู้ฟังก์ชันที่ยุ่งยากใด ๆ
- เคลื่อนย้ายสะดวก : มาพร้อมล้อเลื่อนที่แข็งแรงและสามารถล็อกได้ ช่วยให้การย้ายไปใช้งานในห้องต่างๆ สามารถทำได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น
- แข็งแรงทนทาน : ตัวเครื่องทำจากเหล็ก แข็งแรง ทนทาน มอเตอร์พัดลมดูดอากาศ หรือแม้แต่ใบพัดก็แข็งแรงมาก แต่ก็ต้องแลกมากับน้ำหนักที่มากหน่อย
- ราคาสบายกระเป๋า : ด้วยราคาค่าตัวที่ต่ำกว่าสองหมื่นบาท สำหรับรุ่น Blast และหมื่นต้น ๆ สำหรับรุ่น Blast Mini ซึ่งถ้าเทียบกับประสิทธิภาพของการกรองอากาศที่ได้มา ทั้งด้วยเรื่องของขนาด และประสิทธิภาพการกรองนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ แต่ก็อย่างที่บอก ออปชันอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกอากาศตัดทิ้งหมดครับ
จุดสังเกต
- ไม่มีฟีเจอร์สมาร์ท : ไม่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนใด ๆ
- แผ่นกรองคาร์บอนต้องซื้อเพิ่ม : สำหรับบางคนที่ต้องการฟังก์ชันกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารเคมีต่าง ๆ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) จะต้องซื้อแผ่นกรองคาร์บอนมาติดตั้งเพิ่ม โดยใส่ซ้อนกับแผ่นกรอง HEPA เข้าไปได้เลย ลงล็อกแบบพอดีเป๊ะ หากใส่แผ่นกรองคาร์บอนเข้าไปด้วย แรงลมอาจจะเบาลงนิดหน่อย เนื่องจากมีตัวกรองเพิ่มมากขึ้นอีกชั้น
- น้ำหนักค่อนข้างมาก : แม้จะมีล้อช่วยในการเคลื่อนย้ายบนพื้นราบ แต่การยกขึ้นลงระหว่างชั้นอาจเป็นเรื่องลำบากสำหรับบางคน หรืออาจจะต้องใช้หลายคนสำหรับช่วยในเรื่องของการขนย้าย (แต่ก็ยังดีที่มีล้อมาให้)