เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

Dyson Digital Slim Share
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

รีวิวฉบับนี้เป็นรีวิว เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim (อ่านออกเสียงภาษาไทยว่า “ไดสัน ดิจิทัลสลิม”) เครื่องดูดฝุ่นน้ำหนักเบาหวิว แบรนด์ Dyson และแน่นอนว่า Dyson มีชื่อเสียงเรียงนามในด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เขาเป็นทั้งผู้นำด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม แบรนด์ต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพัดลมไร้ใบพัด เครื่องเป่าผมไร้ใบพัด และอื่นๆ อีกมากมาย

โดย เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim ตัวนี้มีจุดเด่นในเรื่องของความบาง และเบา ! ซึ่งเขาเคลมว่าตัวนี้ มีขนาดที่เล็กกว่า เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11 ถึง 20% และมีน้ำหนักที่เบากว่า 30% หรือเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น (กรณีใช้งานพร้อมท่อต่อหัวดูด) และเหลือแค่ 1.3 กิโลกรัม (กรณีใช้แบบมือถือ) ชนิดที่เรียกกว่าเกิดประโยชน์สูงสุด และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ อุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่เป็นพวกหัวดูด ท่อต่อ เพื่อให้ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ อีกมากมาย

ด้านล่างนี้เป็นเมนูลัด (Shortcut) ที่ให้คุณได้สามารถเข้าถึงรีวิว Dyson Digital Slim เครื่องนี้ได้ง่ายๆ เนื่องจากรีวิวนี้มีเนื้อหาค่อนข้างละเอียด

แกะกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

Dyson Digital Slim Box
กล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

ในส่วนของ กล่องผลิตภัณฑ์ นั้นก็มาแบบเรียบง่าย ชนิดที่เรียกว่า แทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเลย มีแต่ตัวเครื่องในแต่ละมิติเท่านั้นเอง

โดยตัวกล่องผลิตภัณฑ์ มีขนาดมิติกล่องอยู่ที่ยาว (L) 270 x กว้าง (W) 155 x สูง (H) 690 มิลลิเมตร (วัดเองด้วยตลับเมตร) และน้ำหนักสุทธิของกล่องรวมผลิตภัณฑ์ (Net Weight) อยู่ที่ประมาณ 4.1 กิโลกรัม (ตามสเปกที่ระบุเอาไว้ข้างกล่อง)

Dyson Digital Slim Box Unpacked
เปิดกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

เมื่อแกะกล่องผลิตภัณฑ์ออกมา ก็จะพบกับอุปกรณ์จัดเก็บเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยอุปกรณ์แต่ละชิ้น จะถูกคั่นด้วยกระดาษแข็ง และหุ้มกระดาษอ่อนธรรมดา ซึ่งบอกได้เลยว่า ถ้าเอาอุปกรณ์ออกมาจากกล่อง ยากมากๆ ที่จะเก็บเข้ากล่องให้เหมือนเดิม (แนะนำให้ถ่ายรูปอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนนำออกมาเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนจะดีที่สุด)

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

เมื่อเอาอุปกรณ์ทั้งหมด ออกมาวางเรียงกันแล้ว ก็พบว่ามีอยู่ทั้งหมด 10 ชิ้น (10 ส่วน) หลักๆ ด้วยกัน (ยังไม่รวมอุปกรณ์ที่อยู่ภายในตัวเครื่องหลัก ที่ถูกประกอบเข้าไว้ด้วยกันแล้ว) ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

Dyson Digital Slim Component
อุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ Dyson Digital Slim
  1. Cordless Vacuum Cleaner Main Body (ตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย x 1 เครื่อง) : หัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ มีน้ำหนักเครื่องเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม (รวมแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ และ ถังเก็บฝุ่นแล้ว)
    (ดูรายละเอียดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเพิ่มเติม)
  2. Slim Fluffy™ Cleaner Head (หัวดูด Slim Fluffy™ x 1 หัว) : หัวดูดลูกกลิ้งสำหรับพื้นแข็ง ที่เป็นมอเตอร์หมุนได้เอง ภายในเป็นแปรงขนแบบนุ่ม จากเส้นไนลอน ความยาว 22.7 เซนติเมตร ช่วยให้การดูดฝุ่นขนาดเล็ก หรือใหญ่ รวมไปถึงเส้นผม ขนสัตว์ เข้าไปเก็บในถังเก็บฝุ่นได้ง่ายขึ้น
  3. Quick-Release Mini Motorised Tool (หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก x 1 หัว) : แปรงใช้ดูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือตัวไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ ที่ซ่อนอยู่บนพื้นผิวของโซฟา ที่นอน หรือ ผ้าห่ม เป็นต้น ด้านในมีแปรงขนแบบเกลียว ความยาว 12 เซนติเมตร (สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้) ที่หมุนได้ด้วยมอเตอร์ พร้อมแถบสักหลาดสีแดงที่ช่วยให้ฝุ่นหลุดได้ด้วย
  4. Extension Wand (ท่อต่อหัวดูด x 1 หัว) : ท่อต่อความยาว 66 เซนติเมตร เอาไว้ต่อกับหัวดูดชนิดต่างๆ ที่ให้มาทั้งหมด 4 หัว ได้สบายๆ ซึ่งถือเป็นออปชันเสริม เพื่อให้สามารถดูดฝุ่นบนพื้น หรือฝุ่นที่เกาะอยู่บนฝ้าเพดาน หรือข้างฝากำแพงได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งบันได หรือเก้าอี้ หรือการก้มเงย ให้ปวดเมื่อยหลัง
  1. Combination Tool (หัวดูดแบบทูอินวัน x 1 หัว) : ใช้ดูดฝุ่นทั่วๆ ไปเช่นบนโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ฝ้าเพดาน (ต้องใช้ท่อต่อหัวดูดช่วย) เป็นแปรงที่สามารถแปลงเป็นหัวพลาสติก (หดหัว) (ความกว้าง 5.5 เซนติเมตร) หรือหัวแบบขน (ยืดหัว) (ความกว้าง 7 เซนติเมตร)
  2. Light Pipe Crevice Tool (หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง x 1 หัว) : หัวดูดความยาว 31 เซนติเมตร เอาไว้ดูดตามซอก หรือร่องที่แคบๆ เช่นตามซอกของเบาะโซฟา เบาะรถยนต์ ซอกประตู หรือหน้าต่าง และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ มันมีแถบไฟ LED ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นเศษสิ่งสกปรกในซอกร่องต่างๆ แถมยังให้ความสวยงามอีกด้วย
  3. Tool Docking Station (แท่นจัดเก็บอุปกรณ์ x 1 ชุด) : แผ่นพลาสติก 2 แผ่น ที่นำมาประกบกัน แผนนึงจะยึดติดกับผนังกำแพง ด้วยนอต และพุกพลาสติก (มีมาให้ในชุด)
  4. Adapter Set (ชุดอแดปเตอร์ชาร์จไฟ x 1 ชุด) : หรือจะเรียกว่าที่ชาร์จ (Charger) ก็ได้ มีหน้าที่แปลงไฟจากไฟบ้านกระแสสลับ (AC Power) มาเป็น ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power) เพื่อใช้ชาร์จลงแบตเตอรี่ ใช้ปลั๊กหัวกลม 2 ขา (Plug Type E) รับแรงดันไฟฟ้าเข้าระหว่าง 100-240 โวลต์ (ใช้ได้กับทุกประเทศทั่วโลก)
  1. Wand Storage Clip (คลิปล็อกเก็บด้ามดูด x 1 ตัว) : ทำมาจากพลาสติกใส ที่เอาไว้ยึดกับ ท่อต่อหัวดูด (ด้ามดูด) เพื่อจะเก็บหัวดูดต่างๆ เอาไว้แนบกับตัวเครื่องได้ 2 หัว (ด้านบน 1 หัว และ ด้านล่างอีก 1 หัว) (ไม่แนะนำให้เก็บ หัวดูดมอเตอร์ Slim Fluffy เนื่องจากมีน้ำหนักมากกว่าหัวอื่น เดี๋ยวจะร่วงหล่นได้)
  2. Machine Documents (เอกสารประกอบเครื่อง x 1 ชุด) : มีเอกสารทั้งหมด 3 ชุด โดยมีภาษาไทยกำกับทุกชุด ประกอบไปด้วย
    1. Regulatory Compliance and Safety Information (ข้อมูลการปฏิบัติตามกฏระเบียบและความปลอดภัย) : ข้อควรระวังในการใช้เครื่องต่างๆ ทั้งหมด 32 ข้อ รวมไปถึงข้อกำหนด และเงื่อนไขการรับประกัน
    2. Tool Docking Installation Guide (คู่มือการติดตั้งแท่นจัดเก็บอุปกรณ์) : แผ่นพับบอก 5 ขั้นตอนหลัก
    3. What you need to know (สิ่งที่คุณต้องรู้) : แผ่นพับบอกทิปส์แอนด์ทริกส์ เกี่ยวกับการใช้งานเครื่อง

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

รายละเอียด
(Specification)
ขนาดมิติ
(Dimension)
250 x 250 x 1100 มิลลิเมตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง
(Net Weight)
  • 1.2 กิโลกรัม
    (น้ำหนักเครื่องเปล่า)
  • 1.9 กิโลกรัม
    (น้ำหนักเครื่องเปล่า + ท่อต่อหัวดูด + หัวดูดมอเตอร์ Slim Fluffy)
อัตราการกินไฟขณะกำลังชาร์จ
(Power Consumption when Charging)
26.2 วัตต์
(วัดจากเครื่องทดสอบอัตราการกินไฟดิจิตอล)
พลังการดูด
(Suction Power)
100 แอร์วัตต์ (Airwatt)
ไฟเข้า
(Input)
AC 100-240V 50/60 Hz (0.60A)
ไฟออก
(Output)
DC 21.75V (1.1A)
พื้นผิวที่รองรับ
(Supported Surface)
พื้นเนื้อแข็ง / พรมขนสั้น
(Hard Floor / Short Pile Rug)
ระดับเสียง
(Noise Level)
72 dB. (เดซิเบล)
(จากสเปคที่ทางผู้ผลิตระบุเอาไว้)
ความยาวของสายไฟรวมทั้งหมด
(Total Cable Length)
1.85 เมตร โดยประมาณ
ความจุถังเก็บฝุ่น
(Dust Tank Capacity)
0.3 ลิตร (Litre)

คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

1. Lightweight but Powerful with Dyson Hyperdymium™ Motor (เบาแต่ทรงพลัง ด้วยมอเตอร์ Hyperdymium™ เทคโนโลยีเฉพาะจาก Dyson)

Dyson Digital Slim Feature Lightweight but Powerful
เบาแต่ทรงพลัง (Lightweight but Powerful)

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีการปรับขนาดให้เล็ก และมีน้ำหนักที่เบาลงกว่า เครื่องดูดฝุ่น Dyson V11 อยู่ถึง 30% กันเลยทีเดียว ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับคนในบ้านทุกเพศทุกวัย สามารถใช้งานในชนิดที่เรียกได้ว่าสามารถถือเครื่องใช้งานได้ด้วยมือเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องของแรงดูดยังคงทรงพลัง ตามแบบฉบับของ Dyson

โดยแรงดูดของเครื่องนี้ ถูกขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ที่ชื่อว่า “Dyson Hyperdymium™ (ไดสันไฮเปอร์ไดเมียม)” ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะจากทางแบรนด์ Dyson เท่านั้น โดยมันจะหมุนด้วยความเร็วรอบที่สูงสุดถึง 120,000 รอบ/นาที (rpm) ซึ่งสร้างแรงดูดได้สูงสุดถึง 100 แอร์วัตต์ (Airwatts) กันเลยทีเดียว

โดยเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเครื่องนี้ สามารถปรับระดับความแรงของพัดลมดูดฝุ่น (Vacuum Fan Level) ได้ทั้งหมด 3 โหมดหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่

  1. ECO Mode : โหมดประหยัด – โหมดที่แนะนำเพื่อการประหยัดแบตเตอรี่ ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน
  2. Med Mode : โหมดธรรมดา – ดูดปกติ
  3. Boost Mode : โหมดสูงสุด – ดูดแรง

2. Small Cleaner Head & Versatility (หัวดูดขนาดเล็ก & พกพาสะดวก)

Dyson Digital Slim Feature Small Cleaner Head
หัวดูดขนาดเล็ก (Small Cleaner Head)

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim ได้ปรับขนาดของ หัวดูด Slim Fluffy™ ให้มีขนาดเล็กลงกว่าตัว Dyson V11 กว่า 20% และก็เบาลงอีกกว่า 30% เพื่อความสะดวกสบายในการมุดเข้าไปทำความสะอาดตามขอบ ซอก มุม ต่างๆ หรือแม้แต่ใต้เฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องการความบาง เพราะเป็นพื้นที่แคบๆ

แต่ถึงแม้ว่าหัวดูดจะมีขนาดที่เล็กลง แต่ก็ยังคงความแข็งแรงเอาไว้ โดยเขาได้ใช้พลาสติกชนิด ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) ที่มีความเหนียว และหนา แตกยาก แถมยังสามารถทนต่อแรงกระแทกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถบังคับทิศทางได้ง่ายอีกด้วย

3. Real-time Report from LCD Screen (หน้าจอแสดงผล LCD รายงานผลแบบสดๆ)

อีกหนึ่งความสามารถที่ถือว่าโดดเด่นของเครื่องนี้คือ หน้าจอแสดงผล LCD ที่เป็นหน้าจอทรงกลม แสดงผลในรูปแบบของสี มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.8 เซนติเมตร (1.1 นิ้ว) อยู่ที่ส่วนของท้ายเครื่อง ควบคุมด้วย “ปุ่มกดหลัก (Main Button)” ที่อยู่ใต้หน้าจอเพียงแค่ปุ่มเดียว ซึ่งอาจจะดูงงๆ กับการใช้งานในตอนแรก (แต่ใช้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง)

Dyson Digital Slim Feature Real-time Report from LCD Screen
หน้าจอแสดงผล LCD รายงานผลแบบสดๆ (Real-time Report from LCD Screen)

โดยหน้าจอนี้เมื่อสว่างแล้ว จะดับลงภายใน 30 วินาที (ครึ่งนาที) หากไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ซ้ำอีก โดยมันจะสว่างได้ใน 2 กรณีคือ

  1. เมื่อกด “ปุ่มทริกเกอร์ (Trigger Button)” เพื่อให้เครื่องเริ่มดูดฝุ่น ซึ่งมันจะแสดงโหมดการดูดฝุ่นปัจจุบันว่ากำลังทำงานด้วยโหมดอะไรอยู่ และเหลือเวลาที่จะใช้งาน (Run time Countdown) ได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งเป็นการอัปเดตเวลากันแบบสดๆ เรียลไทม์
  2. เมื่อกด “ปุ่มกดหลัก” เพื่อปรับเปลี่ยนโหมด หรือตั้งค่าภาษา และการแจ้งเตือนต่างๆ

4. Highly-Efficient Scrolled Cyclones (แรงดูดไซโคลนแบบม้วนคุณภาพสูง)

Dyson Digital Slim Feature Highly-Efficient Scrolled Cyclones
แรงดูดไซโคลนแบบม้วนคุณภาพสูง (Highly-Efficient Scrolled Cyclones)

นอกจากที่ เครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้ จะมีแรงดูดที่ทรงพลังแล้ว มันยังทำงานร่วมกับ ชุดไซโคลนน้ำหนักเบา (Lightweight Cyclone Pack) ที่ด้านในจะเป็น ไซโคลนแบบม้วน (Cyclone Pack) จำนวน 11 ตัว เพื่อช่วยเสริมแรงดูดฝุ่นให้มากสูงสุดถึง 1 แสนกรัม

และนอกจากที่จะช่วยเสริมแรงดูดให้แรงแล้ว มันยังช่วยในเรื่องของการคัดแยกฝุ่นละอองขนาดขนาดเล็ก และสิ่งสกปรก ออกจากอากาศที่ถูกดูดเข้ามาพร้อมกัน โดยอากาศจะถูกกรองและปล่อยกลับออกสู่ภายนอก ในขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสิ่งสกปรกต่างๆ ก็จะถูกกักเก็บไว้อยู่ด้านใน ไม่ให้หลุดลอดออกไป

5. Easy to Remove and Replace Lithium-Ion Battery (ชุดแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ที่ถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆ)

Dyson Digital Slim Feature Easy to Remove and Replace Battery
ชุดแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ที่ถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆ (Easy to Remove and Replace Lithium-Ion Battery)

เครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้ ได้ใช้ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Lithium-Ion Battery หรือ Li-Ion) ขนาดความจุ 2,500 มิลลิแอมป์ (mAh) ที่มีคุณสมบัติของการจ่ายไฟที่แรง นิ่ง และ คงที่ แถมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย

และอีกหนึ่งความสามารถที่จัดว่าดีงามมากๆ เลยก็คือ ตัวก้อนแบตเตอรี่ของเขานั้น สามารถที่จะถอดเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งช่าง หรือเข้าศูนย์บริการใดๆ ด้วยการดันสลักล็อกสีแดงลง เพื่อปลดล็อกให้สามารถดึงชุดแบตเตอรี่ออกมาจากตัวเครื่องได้ง่ายๆ ในขณะที่วิธีใส่กลับเข้าไป ก็สามารถทำเหมือนกัน นอกจากนี้แล้ว เราก็ยังสามารถซื้อชุดแบตเตอรี่มาสำรอง ในกรณีที่ต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ได้อีกด้วยเช่นกัน (เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 40 นาที สำหรับโหมด ECO)

6. Easy Maintenance (บำรุงรักษาง่าย)

Dyson Digital Slim Feature Easy Maintenance Dustbin Emptying
บำรุงรักษาง่าย (Easy Maintenance) (เศษฝุ่นสามารถเททิ้งง่าย)

ด้านการบำรุงรักษาตัวเครื่อง หลักๆ คือ การนำเอา ฝุ่นละอองขนาดขนาดเล็ก และสิ่งสกปรก ที่อยู่ภายในถังเก็บฝุ่น ไปเททิ้ง เพื่อให้ตัวเครื่องคงประสิทธิภาพของการดูดฝุ่นที่สูงสุดเอาไว้ โดยสามารถกด “ปุ่มปลดล็อกฝาปิดถังเก็บฝุ่นสีแดง (Red Bin Release Button)” หลังจากนั้นเศษฝุ่นต่างๆ ก็จะตกลงข้างล่าง ตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งมือเราจะไม่สัมผัสโดนกับสิ่งสกปรกที่อยู่ด้านในเลยแม้แต่น้อย ถือว่าเป็นกลไกการเอาเศษฝุ่นต่างๆ ออกจากตัวเครื่องถูกสุขลักษณะ (Hygienic Ejection Mechanism) เป็นอย่างมาก

Dyson Digital Slim Feature Easy Maintenance Dustbin Washing
บำรุงรักษาง่าย (Easy Maintenance) (ถังเก็บฝุ่นสามารถนำไปล้างน้ำได้)

และนอกจากนี้แล้วอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ภายใน ถังเก็บฝุ่น (Dustbin) ทุกชิ้น อย่างเช่น ตัวกรองฝุ่น ต่างๆ รวมไปถึง หัวดูดต่างๆ ที่ไม่มีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ก็สามารถถอดนำไปล้างน้ำสะอาดได้สบายๆ ได้อีกด้วยเช่นกัน

สำรวจรอบๆ ตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

ส่วนนี้จะมาขอแนะนำส่วนประกอบของ ตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่เป็นหัวใจเลยก็ว่าได้ ลองมาดูกันว่า มีส่วนประกอบตรงไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย …

Dyson Digital Slim Component Main Body
ส่วนประกอบของ ตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim
  1. Dust Inlet (ช่องฝุ่นเข้า) : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 เซนติเมตร รับฝุ่นที่มาจากท่อต่อหัวดูด หรือหัวดูดชนิดต่างๆ เข้าไปยังถังเก็บฝุ่น
  2. Dustbin (ถังเก็บฝุ่น) : ตัวถังเก็บฝุ่น ขนาดความจุ 0.3 ลิตร (300 มิลลิลิตร) ใช้วัสดุพลาสติกใส เพื่อให้สามารถมองเห็น ฝุ่นละอองขนาดขนาดเล็ก และสิ่งสกปรก ที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
  3. Bin Release Button (ปุ่มปลดล็อกถังเก็บฝุ่น) : เป็นเหมือนห่วงสีแดง ที่เอาไว้ปลดล็อกฝาถังเก็บฝุ่น เพื่อให้มันเปิดออกมา ก่อนที่ฝุ่นละอองขนาดขนาดเล็ก และสิ่งสกปรก ตกลงไปข้างล่างทันที ตามแรงโน้มถ่วงของโลก
  4. Trigger Button and Handle (ปุ่มทริกเกอร์ และ ด้ามจับ) : หรือปุ่มเปิดการทำงานของระบบดูดฝุ่น ที่เอาไว้เปิดให้เครื่องดูดฝุ่นทำงาน (กดคือเปิดเครื่อง และปล่อยคือปิดเครื่อง) การใช้งานจะมีลักษณะเหมือนการเหนี่ยวไกปืน ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ส่วนบนของด้ามจับ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
  5. Battery Pack (ก้อนแบตเตอรี่) : แบตเตอรี่ขนาดความจำ 2,500 มิลลิแอมป์ ที่สามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ด้วยการนำออกมาจากด้ามจับของตัวเครื่องได้ทั้งก้อน ด้วยการดันสลักปลดล็อกแบตเตอรี่ (Battery Release Button) ลง ก่อนจะดึงออกมาจากตัวเครื่องได้เลย
Dyson Digital Slim Main Body Detail
รายละเอียดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (Main Body Detail) ในมุมต่างๆ
  1. Dyson Hyperdymium™ Motor Installation Area (พื้นที่ติดตั้งมอเตอร์ไดสันไฮเปอร์ไดเมียม) : พัดลมดูดฝุ่น (Vacuum Fan) พลังสูง ที่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เครื่องดูดฝุ่นเครื่องนี้มีความทรงพลัง มันสามารถหมุนได้สูงสุดกว่า 120,000 รอบ/นาที และยังมีไซโคลนแบบม้วน (Cyclone Pack) ที่ช่วยเสริมแรงดูดฝุ่นอีกด้วย
  2. Filter (ตัวกรองฝุ่น) : อยู่ส่วนท้ายสุดของตัวเครื่อง วิธีการนำออกคือบิดหมุนทวนเข็มนาฬิกา (Anticlockwise) แล้วดึงออกมาจากตัวเครื่อง เพื่อไปทำความสะอาดได้เลย
  3. LCD Screen (หน้าจอแสดงผล LCD) : เป็นหน้าจอวงกลม แสดงผลแบบสี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.8 เซนติเมตร (หรือ 1.1 นิ้ว) จะแสดงสถานะเครื่องต่อเมื่อกดปุ่ม
  4. Main Button (ปุ่มกดหลัก) : ปุ่มสีแดงอยู่ใต้หน้าจอแสดงผล LCD เอาไว้ใช้ในการตั้งค่าต่างๆ เช่นค่าภาษาที่แสดงผล (Display Language) และการตั้งค่าการแจ้งเตือน (Alert Settings) ต่างๆ

เริ่มต้นใช้งาน เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

การใช้งานเครื่องดูดฝุ่นไร้สายทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ (ไม่ใช่เฉพาะแค่ Dyson Digital Slim เท่านั้น) สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกหัวดูด ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยในที่นี้ ขอยกตัวอย่างสถานการณ์ ที่สำคัญๆ มาให้ดูกัน

  1. การทำความสะอาดพื้น
  2. การทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
  3. การทำความสะอาดกำแพง และเพดาน
  4. การทำความสะอาดในรถยนต์

1. Floor Cleaning (การทำความสะอาดพื้น)

ในการทำความสะอาดพื้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นเนื้อแข็งอย่างพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ต่างๆ สามารถใช้ ท่อต่อหัวดูด ต่อกับ หัวดูด Slim Fluffy™ ดูดได้เลย โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวแปรงฯ จะทำความเสียหายให้กับพื้น เพราะ เป็นแปรงขนแบบลูกกลิ้ง ที่มีแปรงขนแบบนุ่มอยู่แล้ว

2. Appliance Cleaning (การทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน)

ในกรณีที่เป็นการทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ก็สามารถเลือกใช้หัวดูดอย่าง หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง หรือหัวดูดแบบผสม หรือหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก ได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องใช้ ท่อต่อหัวดูด ช่วยแต่อย่างใด เพราะสิ่งของเหล่านี้ อยู่ในระยะมือของเราที่สามารถเข้าถึงได้อยู่แล้ว

3. Wall and Ceiling Cleaning (การทำความสะอาดกำแพง และเพดาน)

Dyson Digital Slim Cleaning Wall and Ceiling
การทำความสะอาดกำแพง และเพดาน (Cleaning Wall and Ceiling)

การทำความสะอาดกำแพง และเพดาน ถ้าไม่อยากต้องปีนบันได ให้เมื่อย หรือเสี่ยงต่อการเจ็บตัว แนะนำให้ใช้ท่อต่อหัวดูดด้วย โดยให้ใช้คู่กับ หัวดูดแบบทูอินวัน (Combination Tool) ในรูปแบบหัวแบบขน (ยืดหัว) เพื่อป้องกันฝ้าเพดาน หรือกำแพงที่ติดวอลล์เปเปอร์เสียหาย หรือเป็นรอยได้

4. Car Cleaning (การทำความสะอาดในรถยนต์)

การทำความสะอาดในรถยนต์ หลักๆ จะใช้ หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง ในการดูดทำความสะอาดซอกของเบาะรถยนต์ (ข้างๆ ที่นั่ง) และอาจจะใช้ หัวดูดแบบทูอินวัน ในรูปแบบหัวแบบขน (ยืดหัว) หรือจะเป็น หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก ในการทำความสะอาดเบาะที่นั่งรถยนต์ ก็ได้เช่นกัน

Vacuum Attachment Conclusion Table (ตารางสรุปการใช้หัวดูดชนิดต่างๆ)

ด้านล่างนี้เป็นตารางสรุปการใช้หัวดูดชนิดต่างๆ ในตัวอย่างสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางสถานการณ์ ก็สามารถใช้หัวดูดได้มากกว่า 1 อย่าง

สถานการณ์ หัวดูด Slim Fluffy™ หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก หัวดูดแบบทูอินวัน หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง ท่อต่อหัวดูด
บนพื้น ✔ ✔
บนโซฟา ✔ ✔
บนที่นอน ✔
ซอกปุ่มคีย์บอร์ด ✔ ✔
บนที่นอน ✔
ซอกปุ่มคีย์บอร์ด ✔ ✔
บนฝ้าเพดาน ✔ ✔ ✔
ซอกเบาะรถยนต์ ✔
เบาะรถยนต์ ✔ ✔

คำถามที่ต้องอยากรู้ เกี่ยวกับการใช้งาน เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

1. ฝุ่นละอองที่ได้จากการดูดฝุ่นเป็นอย่างไร ?

ด้วยพลังดูดแบบไซโคลน มีแรงดูดสูง จึงทำให้ฝุ่นละอองถูกแบ่งแยก (ชนชั้น) กันอย่างชัดเจน โดยฝุ่นละอองขนาดใหญ่ อย่างพวกเส้นผม และขนสัตว์ต่างๆ จะถูกม้วนเกาะอยู่ที่ตะแกรงกรองฝุ่น ในขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ถึงเล็กมากๆ จะอยู่ที่ส่วนหน้าของถังเก็บฝุ่น (ใกล้กับช่องฝุ่นเข้า)

โดยภาพที่เห็นด้านล่างคือตัวอย่างการดูดฝุ่นด้วย เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim ภายในบ้าน และในรถ เพียงแค่ 1 ครั้ง (จบใน 1 วัน) เท่านั้น

2. แรงดูดของตัวเครื่อง เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดเป็นอย่างไร มีแรงตกหรือไม่ ?

Dyson Digital Slim Battery Need to Charge Warning
การแจ้งเตือนให้ชาร์จแบตเตอรี่ (Battery Need to Charge Warning)

เครื่องนี้สามารถดูดฝุ่นได้ดี แรงไม่มีตก แม้ในขณะที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมด (เวลาเหลือน้อยแล้ว) แต่เมื่อแบตฯ ใกล้จะหมดจริงๆ จะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป โดยที่บนหน้าจอแสดงผล LCD จะขึ้นสัญลักษณ์ให้นำแบตเตอรี่ไปชาร์จ โดยทันที

3. สามารถถอดแบตเตอรี่ออกมาจากตัวเครื่อง แล้วชาร์จแยกต่างหากได้หรือไม่ ?

Dyson Digital Slim Battery Charging
ขณะกำลังชาร์จแบตเตอรี่ (Charging Battery)

“ได้” เราสามารถถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวเครื่อง เพื่อมาชาร์จไฟต่างหากได้ เพราะว่าช่องเสียบไฟตรงกับอะแดปเตอร์ชาร์จไฟนั้นติดอยู่ที่ตัวก้อนแบตเตอรี่เลย ดังนั้นจึงสามารถชาร์จแยกได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ เราก็สามารถซื้อก้อนแบตเตอรี่แยกมาอีกก้อน (หรือหลายๆ ก้อนได้) เพื่อที่จะสำรองเอาไว้ใช้ และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องรอให้แบตฯ ก้อนเก่าชาร์จไฟจนเต็ม

4. ราคาอะไหล่ของเครื่องมีอะไรบ้าง และ แพงหรือไม่ ?

ในส่วนของอะไหล่ของตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim ที่มีจำหน่าย ก็รายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้เลย

ชื่ออะไหล่ภาษาอังกฤษ
(English Part Name)
ชื่ออะไหล่ภาษาไทย
(Thai Part Name)
ราคาต่อหน่วย
(Unit Prices)
Battery Pack + Adapter Set ก้อนแบตเตอรี่ + ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 4,700 บาท
Battery Pack ก้อนแบตเตอรี่ 5,400 บาท

หมายเหตุ : ข้อมูลได้มาจากการโทรศัพท์ไปสอบถามที่คอลเซนเตอร์ของทาง Dyson (เบอร์โทรศัพท์ : 02-026-6325) ซึ่งข้อมูลไม่ได้ผิด หรือสลับกันอย่างแน่นอน ที่ทำไม อะไหล่แบตเตอรี่ + ชุดอแดปเตอร์ชาร์จไฟ ถึงมีราคาที่ถูกกว่า อะไหล่ที่เป็นแบตเตอรี่อย่างเดียว …

5. เครื่องมีการรับประกัน ทั้งสิ้นกี่ปี ?

ระยะเวลารับประกันเครื่อง จะอยู่ที่ 30 เดือน (ปกติจะ 24 เดือน) โดยถ้าหากไม่พึงพอใจกับสินค้าที่คุณซื้อ ก็สามารถส่งคืนสินค้าดังกล่าวให้กับบริษัทภายใน 14 วัน

หมายเหตุ* : ทางบริษัทจะรับซ่อมเครื่องที่เสียจากการใช้งานเท่านั้น ไม่นับรวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ เช่น เครื่องตกจากที่สูง แตก ชำรุด โดนน้ำ หรือเกิดจากการใช้งานที่ผิดวิธี

6. สามารถติดต่อ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim ได้ที่ไหน ?

  • Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 0-2026-6325
  • Website (เว็บไซต์) : https://www.dyson.co.th/
  • E-Mail (อีเมล) : ask.dyson@cmg.co.th
  • LINE OA (บัญชีไลน์ธุรกิจ) : @dysonCMG
  • Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : DysonTH (ไอสันทีเฮช) ตามกรอบด้านล่าง

บทสรุปข้อดีข้อเสีย หลังการใช้งาน เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim

ข้อดี 🙂

  • น้ำหนักเบาสมชือ สามารถถือได้ด้วยมือเดียวจริงๆ มีด้ามจับที่สามารถหยิบไปใช้งานได้อย่างถนัดมือ
  • มีหัวดูดที่หลากหลาย พร้อมท่อต่อหัวดูด เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายวัตถุประสงค์
  • วัสดุอุปกรณ์แข็งแรง พลาสติกต่างๆ ไม่ดูก๊องแก๊ง การล็อกกันระหว่างหัวดูด หรือท่อต่อ ต่างๆ มีความหนักแน่น อากาศไม่รั่วไหล (ตอนแรกเห็นรอยอยู่ในเนื้อของพลาสติก นึกว่ามีการแตกร้าวของวัสดุ แต่ที่ไหนได้ มันคือลวดลาย จากการออกแบบดีไซน์นั่นเอง)
  • เสียงเงียบ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเปิดในโหมด ECO (โหมดประหยัด) และ MED (โหมดธรรมดา) เท่านั้น (ถ้าโหมด BOOST (โหมดสูงสุด) เสียงก็ดังอยู่ดี เพราะว่าต้องใช้พลังในการสร้างแรงดูดฝุ่น หรืออนุภาคขนาดเล็ก ที่ฝังอยู่บนพื้นผิว)
  • สามารถรักษาแรงดูดฝุ่นได้ดีมากๆ ให้แรงดี ไม่มีตก ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็ตาม
  • มีระบบความปลอดภัยที่สนับสนุนการใช้งานมากมาย โดยเครื่องจะไม่ทำงาน ในกรณีที่
    • นำเอาตัวกรองฝุ่นออก
    • ขณะชาร์จแบตเตอรี่อยู่
  • แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้เลย โดยไม่ต้องพึ่งช่าง หรือนำเข้าศูนย์บริการ (ราคาของแบตเตอรี่)
  • หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง ถือเป็นสิ่งที่ดี และตอบโจทย์ สำหรับคนใช้งานมากๆ เพราะมันสามารถเห็นสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่ตามซอกมุมได้อย่างชัดแจ๋ว
  • มีระบบการกรองฝุ่นแบบทั่วทั้งเครื่อง โดยที่จะกักเก็บฝุ่น หรืออนุภาคขนาดเล็ก และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เอาไว้ในถังเก็บฝุ่น และ ปล่อยแต่อากาศที่ถูกกรองแล้วออกมา จึงเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ประสบปัญหาภูมิแพ้อยู่แล้ว

ข้อเสีย 🙁

  • การใช้งาน “ปุ่มกดหลัก” ในตอนแรกอาจจะดูยุ่งยากในการใช้งาน เพราะมันต้องมีจังหวะกดครั้งเดียวแล้วปล่อย หรือ กดปุ่มค้าง (Hold the Button) เพราะมันมีการตั้งค่าต่างๆ ด้วย
  • ปุ่มทริกเกอร์ไม่สามารถล็อกให้มันกดค้างได้ ดังนั้นถ้าต้องการจะดูดฝุ่น จะต้องกดปุ่มตลอดเวลา
ทบทวนภาพรวม
ความสะอาดในการดูดฝุ่น
9
ความหลากหลายของอุปกรณ์เสริม
9
ความหลากหลายในการใช้งาน
10
การดูแลรักษา ทำความสะอาด
10
ความสะดวก และ ง่ายต่อการใช้งาน
9
ความคุ้มค่าเทียบกับราคา
7
ความพึงพอใจโดยรวม
10
บทความก่อนหน้านี้รีวิว Blueair Classic 690i เครื่องฟอกอากาศเกรดพรีเมี่ยม จากสวีเดน กรองฝุ่น 0.1 ไมครอน ต่อ Wi-Fi ได้
บทความถัดไปพิสูจน์แล้วเครื่องฟอก Blueair HealthProtect 7770i เครื่องฟอกอากาศที่กำจัดเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศ ได้ 99.99%
Thanop Somprasong
Thanop.com Founder + Thaiware.com Co-Founder + Business Director, Cloud Business Co.,Ltd. + Committee Thai Webmaster Association
dyson-digital-slim-review<p><strong>ความสะอาดในการดูดฝุ่น (9.0/10)</strong> : เรื่องแรงดูดฝุ่น ไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว มีทั้งหมด 3 ระดับให้เลือกตามความต้องการ แน่นอนว่าถ้าใช้โหมดประหยัด (ECO Mode) ดูดเบา ก็จะดูดได้นาน แต่ถ้าเปิดระดับสูงสุด (Boost Mode) ดูดเต็มจริงๆ ได้ไม่ถึง 10 นาที แต่ที่ขาดอีก 1 คะแนนก็เพราะ เนื่องจากเครื่องนี้เป็นรุ่นเล็ก แรงดูดอยู่ที่ 100 แอร์วัตต์ ยังไม่จัดว่าเป็นสุดยอด แต่ก็เพียงพอแล้ว สำหรับการดูดฝุ่นทำความสะอาดภายในบ้าน และในรถ</p> <p><strong>ความหลากหลายของอุปกรณ์เสริม (9.0/10)</strong> : อุปกรณ์เสริมถือว่าให้มาเยอะ ตามที่สมควรจะได้ มีหัวดูดทั้งหมด 4 หัว พร้อม 1 ท่อต่อ ที่เอาไว้ดูดฝุ่นบนที่สูงระดับเหนือศีรษะ หรือระดับพื้น</p> <p><strong>ความหลากหลายในการใช้งาน (10/10)</strong> : ที่ให้เต็มสิบ เพราะว่า เนื่อจากมันเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (ใช้แบตเตอรี่) ดังนั้นเราสามารถหยิบไปใช้ที่ไหนก็ได้ โดยตัดข้อจำกัดด้านการหาตำแหน่งของปลั๊กไฟ หรือสายไฟไปได้เลย</p> <p><strong>การดูแลรักษา ทำความสะอาด (10/10)</strong> : เครื่องนี้สามารถทิ้งเศษฝุ่นต่างๆ ที่อยู่ภายในตัวเครื่องได้ โดยที่มือไม่ต้องสัมผัสโดนกับฝุ่นเลย ถือว่าได้สุขลักษณะ แถมอุปกรณ์ต่างๆ สามารถนำไปล้างน้ำเปล่าได้อีก ช่วยเสริมให้อุปกรณ์ต่างๆ นั้นสะอาดมากขึ้นไปอีกขั้น และยังคงประสิทธิภาพการใช้งานได้นาน</p> <p><strong>ความสะดวก และ ง่ายต่อการใช้งาน (9/10)</strong> : ใช้งานง่ายมากๆ อย่างเช่น ในส่วนของการเปลี่ยนหัวต่อก็เป็นหัวต่อขนาดมาตรฐาน ปุ่มปลดล็อกสีแดง เหมือนกันทุกชิ้น ทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ แต่ที่หัก 1 คะแนน ก็เพราะว่า ปุ่มกดหลัก แอบใช้งานยากไปหน่อยในตอนแรก</p> <p><strong>ความคุ้มค่าเทียบกับราคา (7/10)</strong> : เพราะราคาแอบสูงไปนิดนึง ถ้าเทียบกับแบรนด์คู่แข่ง ที่มีสเปกเครื่องที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้งนี้ก็แลกมาด้วยความเป็น Dyson เพราะแบรนด์นี้ ทั้งในเรื่องของชื่อเสียงของแบรนด์ คุณภาพของสินค้า และมาตรฐานการให้บริการของศูนย์บริการในไทยนั้นสูงอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดเป็นรายวัน ก็ตกเพียงวันละ 55 บาทต่อวันเท่านั้น (คำนวณจากระยะเวลา 1 ปี) ซึ่งก็ไม่ได้สูงเกินไปเลย หากจะใช้งานทุกวัน และยิ่งถ้าหากใช้งานอย่างถูกต้อง ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า 1 ปีอีกด้วย</p> <p><strong>ความพึงพอใจโดยรวม (10/10)</strong> : เอาไปเต็ม 10 เพราะจริงๆ แล้ว มันก็ตอบโจทย์ทุกเรื่องใน ไม่ได้ติดเรื่องอื่นๆ เลยนอกจากราคา</p>

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็น
กรุณาใส่ชื่อของคุณตรงนี้