หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S
มุมมองด้านข้าง หุ่นยนต์เช็ดกระจก กำแพง ผนัง GlassBot รุ่น W110S

รีวิวนี้จะพามาดูอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จัดว่าเป็น นวัตกรรมที่มีความแปลกใหม่ อีกตัวหนึ่ง (ในขณะที่เขียนรีวิวอยู่นี้) ที่จะเข้ามาช่วยให้ความเป็นอยู่ของเราสะดวกสบาย มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่า รีวิวนี้ก็ยังอยู่ในเรื่องของอุปกรณ์ที่เรียกว่า “หุ่นยนต์ทำความสะอาด” เฉกเช่นเคย แต่ว่าไม่ใช่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เหมือนที่เคยๆ รีวิวมา แต่มันเป็น หุ่นยนต์เช็ดกระจก ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Glass Cleaning Robot” “Windows Cleaning Robot” หรือจะเรียกว่า “Multi Surface Cleaning Robot” ก็ได้เช่นกัน เพราะมันสามารถช่วย เช็ดกระจก เช็ดกำแพง เช็ดผนัง กระเบื้อง หรือบนโต๊ะ ต่างๆ ได้สะดวกสบาย และ สะอาดมากยิ่งขึ้น โดยรีวิวนี้ พระเอกของเราก็คือ หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot รุ่น W110S ของยี่ห้อ Mamibot จากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) ประเทศที่เป็น สุดยอดแห่งนวัตกรรม หุ่นยนต์ทำความสะอาด ของโลกเลยก็ว่าได้

🠆 คุณสามารถสั่งซื้อหุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S ได้ที่นี่

โดยตัวนี้ ผมเองได้มีโอกาสมา รีวิวผลิตภัณฑ์จาก Mamibot เป็นตัวที่ 2 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยรีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mamibot PreVac สุดฉลาด ด้วย 10 เซ็นเซอร์รอบตัว จาก 3 ชนิดหลัก กันมาแล้ว ทั้งหมดนี้นั้นก็ ผลิตคิดค้นโดย บริษัท Mamibot Manufacturing USA Inc. ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ มลรัฐเดลาแวร์ (Delaware) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นเอง

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมได้ทำเมนูลัด เอาไว้ด้านล่างนี้ เพื่อให้ได้สามารถเข้าถึงข้อมูล ส่วนต่างๆ ของรีวิวนี้ได้อย่างง่าย และ สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มาดูเมนูลัดกันได้เลย

  1. ทำไมต้องใช้ หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot ?
  2. แกะกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot
  3. ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของตัวเครื่อง
  4. คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของตัวเครื่อง
  5. สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S
  6. คำเตือน และ ข้อควรระวัง ก่อนเริ่มต้นใช้งาน
  7. เปิดใช้งาน หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S
  8. วิธีการสั่งงานเครื่องผ่าน แอปพลิเคชัน GlassBot
  9. คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs)
  10. บทสรุปการใช้งานของเครื่อง

หรือถ้ายังไม่อยากอ่านบทความรีวิวยาวๆ ลองสละเวลาสัก 15 นาทีนิดๆ ในการเปิดดูคลิปวีดีโอสาธิตการใช้งาน ที่ผมได้ทำขึ้นมาดู และ หากไม่เข้าใจตรงไหน สามารถ กลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่รีวิวนี้ ก็ได้เช่นกัน

ทำไมต้องใช้ หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot ?

ในปัจจุบันนี้ บ้านพักอาศัย ของเราส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านรูปแบบสมัยใหม่ หรือ โมเดิร์นโฮม (Modern Home) นั้น นิยมเอากระจกมาเป็นส่วนหนึ่งของการประดับตกแต่งบ้าน กันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เพื่อความสวยงาม โปร่งแสง แต่อีกส่วนนึง ก็เพื่อ การถ่ายเทของอากาศที่ดีภายในบ้าน นั่นเอง แต่กระจกเจ้ากรรม อยู่ไปสักพักก็ดันขุ่นมัวลงเรื่อยๆ จนนานวันเข้า แทบจะมองอะไรออกไปไม่เห็น (เห็นแต่คราบสกปรก) แล้วแบบนี้จะมีกระจกไว้ ทำไม ?

ตั้งแต่ อดีตจวบจนถีงปัจจุบัน ส่วนมากแล้ว เราก็นิยมเช็ดกระจกกันด้วยการ ฉีดน้ำยาเช็ดกระจก (Glass Cleaner) ที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด ทั่วๆ ไป แล้ว เช็ดด้วย ผ้าขี้ริ้ว หรือ กระดาษหนังสือพิมพ์ มาทำความสะอาดกระจก ซึ่งอุปสรรคนึงของการเช็ดกระจกคือ เราก็จะสามารถเช็ดกระจก ในเฉพาะพื้นที่ที่เอื้อมขึ้นไปเช็ดถึง ด้วยเหตุนี้เอง กระจกก็จะใสปิ๊ง กิ๊กใสปิ๊ง เฉพาะส่วนล่างๆ เท่านั้น ส่วนกระจกด้านบนนี่ ถ้าอยากจะปืนขึ้นไปก็อาจจะต้องพึ่งพาบันได เก้าอี้ มาต่อ แถมเสี่ยงชีวิตที่อาจจะพลัดตกบันไดได้ง่ายๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ ก็น่าเป็นห่วงที่จะเกิดอุบัติเหตุเหมือนกัน

และด้วยเหตุนี้เองโลก จึงได้คิดค้นเอา หุ่นยนต์เช็ดกระจก เข้ามาช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นนั่นเอง มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงจะเกิดคำถามแล้วว่า หุ่นยนต์เช็ดกระจก ที่ว่านี้ มันจะทำความสะอาดได้ดีจริงหรือ ? มันเคลื่อนที่ในแนวตั้งฉากบนกระจกได้อย่างไร ? มันจะไม่ตกลงมาเหรอ ? แล้วบังคับควบคุมมันด้วยอะไรละ ? บทความนี้มีคำตอบ บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอน …

แกะกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

GlassBot W110S Box Unpacked
แกะกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S ออกมา อุปกรณ์ต่างๆ เก็บด้วยความเรียบร้อย เป็นสัดส่วน

และก็มาถึงช่วงแกะกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot กันดูบ้างว่าภายใน มีอุปกรณ์อะไรมาให้เราบ้าง แต่ก่อนอื่น ขอพามาดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกกล่องกันก่อน ว่าเป็นอย่างไร

ด้านนอกกล่อง

เริ่มกันที่ ด้านนอกของกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot กันก่อน มันจัดว่าเป็นกล่องที่ มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากมายเลยทีเดียวโดยที่ น้ำหนักกล่องรวมสินค้าด้านใน ชั่งแล้วอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม เท่านั้นเอง

GlassBot W110S Box Top
ด้านบนของกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

ด้านส่วนบน ของกล่อง เป็นรูปตัวเครื่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S สีขาวอยู่ตรงกลาง ด้านล่างเขียนว่า “Glass Cleaning Robot” และ ในขณะที่ด้านซ้ายเป็นรูปคิวอาร์โค้ด (QR Code) จำนวน 2 อัน ซึ่งก็จะพาไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GlassBot จากทั้ง ผู้ที่ใช้อุปกรณ์พกพาแอนดรอยด์ (Android) และไอโอเอส (iOS) อย่าง มือถือไอโฟน เป็นต้น

GlassBot W110S Box Front
ด้านหน้ากล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S บอกรายละเอียด ความสามารถเด่น ของตัวเครื่อง

มาดูกันที่ด้านหน้าของกล่อง มีรูปภาพแสดงคุณสมบัติและ ความสามารถ ฟีเจอร์เด่นๆ ของตัวเครื่อง ที่ทางผู้ผลิตเขาภูมิใจนำเสนอ ให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็น

  1. Path Cleaning : มีเส้นทาง การวิ่งทำความสะอาด อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั่วพื้นที่กระจก
  2. Remote Mode : ควบคุมทิศทางเครื่องผ่านรีโมทคอนโทรล และ ผ่านแอปพลิเคชัน GlassBot ก็ได้เช่นกัน
  3. Fall-Prevention : มีระบบเซฟตี้ ป้องกันการตกหล่น ขณะกำลังทำงาน
  4. Deep Cleaning : มีความสะอาดสูง ทำความสะอาดแบบลึก หมดจด
  5. Replacement Fabric : ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดกระจก กำแพง ผนัง สามารถถอดเปลี่ยนได้เอง ง่ายๆ

ส่วนด้านหลังกล่อง ไม่ได้มีข้อมูลอะไรเลย นอกจากเขียนว่า “Glass Cleaning Robot” ขอข้ามไปเลยละกัน

GlassBot W110S Box Left
ด้านซ้ายของกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

ด้านซ้ายของกล่อง เป็น ข้อความแจ้งเตือนก่อนการใช้งาน (Please read manual carefully before using) ต่างๆ รวมๆ ทั้งสิ้น 15 ข้อด้วยกัน (รายละเอียดข้อความระวัง กดตรงนี้) ซึ่งสาเหตุที่จะต้องเตือนกันเยอะแยะมากมายขนาดนี้ก็เพราะว่า หลักการการทำงานเครื่องนี้คือมันจะเกาะกระจกในแนวดิ่ง ต้องไต่กระจก ผนังกำแพง เพื่อ ขึ้นไปทำความสะอาด หากใช้งานไม่ถูกวิธีละก็ อาจทำให้ตัวเครื่องไม่ยึดเกาะกระจก หรือ ผนังกำแพง แล้วดิ่งลงสู่พื้น เกิดความเสียหาย ได้เช่นกัน ต้องมาเสียเงินซ่อมอีก

GlassBot W110S Box Right
ด้านขวาของกล่อง หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S สรุปคุณสมบัติ และ ความสามารถหลัก ของตัวเครื่อง

ด้านขวาของกล่อง เป็น คุณสมบัติและความสามารถ (Features) ของมัน มีหลายข้อเลยทีเดียว เดี๋ยวจะสรุปไว้ให้ด้านล่างกันทีเดียวเลย (รายละเอียด ความสามารถของเครื่อง กดตรงนี้)

ด้านในกล่อง

อุปกรณ์ ส่วนประกอบ ต่างๆ ที่ติดมาในกล่อง GlassBot W110S
อุปกรณ์ ส่วนประกอบ ต่างๆ ที่ติดมาในกล่อง GlassBot W110S

จากรูปด้านบนสังเกตว่าอุปกรณ์ ที่ให้มานั้นมีน้อยมากๆ เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการเริ่มต้นใช้งาน คราวนี้ลองมาดูอุปกรณ์ที่ทาง Mamibot เขาจับใส่กล่อง GlassBot W110S มาให้ลูกค้ากันดูบ้าง ว่าด้านในนั้น มีอะไรกันบ้าง

  1. Micro-Fiber Cleaning Cloth (ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดกระจกสำรอง) – 12 อัน (ติดอยู่ที่เครื่องแล้ว 2 อัน)
  2. Safety Rope (เชือกนิรภัย เพื่อความปลอดภัย ยาว 4.0 เมตร รองรับแรงดึง 150 Kgf) – 1 เส้น
  3. GlassBot W110S (เครื่องหุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot) – 1 เครื่อง
  4. AC Power Cord (ชุดสายไฟระหว่างอะแดปเตอร์แปลงไฟบ้าน กับ ปลั๊กไฟบ้าน ยาว 1.0 เมตร) – 1 เส้น
  5. User Manual (คู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ) – 1 เล่ม
  6. AC Adapter (ชุดอะแดปเตอร์แปลงไฟบ้าน เพื่อไปใช้ใน เครื่อง GlassBot ยาว 1.2 เมตร) – 1 ชุด
  7. DC Power Extension Cable : (ชุดสายไฟต่อพ่วง ระหว่างอะแดปเตอร์แปลงไฟบ้านกับตัวเครื่อง ยาว 4.0 เมตร) – 1 เส้น
  8. Remote Control (รีโมทคอนโทรลควบคุมเครื่องแบบไร้สาย) – 1 อัน

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

มาดูสเปคหรือข้อมูลจำเพาะ (Specification) ของเครื่องกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรกันบ้าง

รายละเอียด
(Specification)
ขนาดมิติ
(Dimension)
300 x 230 x 145 มม.
น้ำหนักของตัวเครื่อง
(Net Weight)
0.95 กิโลกรัม
อัตราการกินไฟ
(Power Consumption)
30 วัตต์ (Watts)
24 โวลต์ (Volts)
3.3 แอมป์ (Amp)
ไฟเข้า
(Input)
AC 100-240V 50/60 Hz
ไฟออก
(Output)
DC 24V 1A
ประเภทของแบตเตอรี่
(Battery Type)
14.8V Li-Ion
ปริมาณความจุแบตเตอรี่
(Battery Capacity)
500 mAh
ระดับเสียง
(Noise Level)
70 dB. (เดซิเบล)
(วัดจากที่ระยะห่าง 1 เมตร)
ระยะเวลาในการชาร์จไฟ
(Charging Time)
1-2 ชั่วโมง
ความยาวของสายไฟรวมทั้งหมด
(Total Cable Length)
6.2 เมตร โดยประมาณ

ความคิดเห็นส่วนตัว

“ถือว่าตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา (ไม่ถึง 1 กิโลกรัม) ทั้งๆ ที่รวมแบตเตอรี่สำรอง ขนาดความจุ 500 มิลลิแอมป์ เข้าไปแล้ว ก็ยังเบา นอกจากนี้เขายังให้สายไฟ ที่หากรวม สายไฟต่อพ่วง มีความยาว 4.0 เมตร เข้าไปแล้ว เบ็ดเสร็จ จะมีความยาวทั้งสิ้น 6.2 เมตร ด้วยกัน ถือว่าเหลือเฟือ และยาวมากๆ ทั้งหมดโดยรวมสเปคดี โอเค แต่เสียงเครื่องแอบดังไปนิดนึง”

คุณสมบัติ และ ความสามารถ หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

ในส่วนนี้จะกล่าวถึง คุณสมบัติ และ ความสามารถหลัก 15 ข้อ !! ของ หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S ตัวนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมได้สรุปข้อมูลมาจาก 3 แหล่งด้วยกันคือ 1. ข้างกล่อง 2. คู่มือการใช้งาน และ 3. จากการทดสอบใช้งานเองจริงๆ (เหมือนกันทุกรีวิว)

GlassBot W110S Top
ด้านบน หุ่นยนต์เช็ดกระจก GlassBot W110S

โดยรีวิวนี้ขอจำแนก แยกคุณสมบัติ และ ความสามารถ ของมันออกเป็นสองหัวข้อหลักๆ เพื่อการทำความเข้าใจ ที่ง่ายขึ้น และชัดเจนขึ้น ได้แก่

  1. System Features (ความสามารถด้านระบบการทำงาน)
  2. Physical Features (ความสามารถด้านกายภาพ)

ความสามารถด้าน ระบบการทำงานของเครื่อง (System Features)

  1. Multi Surface Cleaning (ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว) : แม้ว่าเจ้าตัว GlassBot W110S จะโปรโมทออกสื่อว่าเป็น “หุ่นยนต์เช็ดกระจก” ก็จริง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันสามารถเป็นได้ทั้ง หุ่นยนต์เช็ดกำแพง หุ่นยนต์เช็ดผนัง หุ่นยนต์เช็ดกระเบื้อง และ เช็ดโต๊ะ ได้เช่นกัน เพราะในคู่มือการใช้งานบอกไว้แบบนี้ว่าได้หลายพื้นผิว ดังนั้นไม่ใช่เป็นการใช้งานที่ผิดประเภทอย่างแน่นอน
  2. Four Operation Modes (4 โหมดการทำงาน) : มีระบบการทำงานหลักๆ ทั้งหมด 4 โหมด แบ่งเป็น 3 โหมดอัตโนมัติ (3 – Automatic Modes) และ 1 โหมดควบคุมเอง (1 – Manual Mode) ดังต่อไปนี้
    1. Up then Down (↑→↓←) : เครื่องจะขึ้นไปด้านบนสุดของกระจกก่อน แล้วเริ่มทำงานโดยวิ่งไปทางขวา แล้วลงล่างมาตามลำดับ
    2. Left then Down (←↓→) : เครื่องจะเริ่มต้นทำงาน โดยจะทำงานวิ่ง ไปทางซ้ายก่อนจากจุดเริ่มต้น แล้วลงล่างตามลำดับ เป็นลำดับชั้นไปเรื่อยๆ จนถึงล่างสุดของกระจก
    3. Right then Down (→↓←) : เครื่องจะเริ่มต้นทำงาน โดยจะทำงานวิ่ง ไปทางขวาก่อนจากจุดเริ่มต้น แล้วลงล่างตามลำดับ เป็นลำดับชั้นไปเรื่อยๆ จนถึงล่างสุดของกระจก
    4. Manual Mode : โหมดควบคุมทิศทางเครื่องด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ขึ้นบน ↑ ลงล่าง ↓ เลี้ยวซ้าย ← เลี้ยวขวา → ด้วยการกดปุ่มลูกศรตามทิศทางจาก รีโมทคอมโทรล ได้เลย
  3. AI Technology (มีระบบปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ชาญฉลาด) : ตัวหุ่นยนต์เช็ดกระจกตัวนี้ มีระบบการประมวลผล ในการให้เครื่องทำงาน วิ่งเช็ดกระจก กำแพง ผนัง ต่างๆ ได้อย่างสุดฉลาด ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่ได้ผ่านการวิจัยและพัฒนา มาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง เพื่อให้เครื่อง ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่วิ่งทำความสะอาดมั่ว และ ไม่วิ่งกลับมาทำงานซ้ำพื้นที่เดิมให้เสียเวลา
  4. Anti-Dropping Control Algorithm (ระบบป้องกันการตกหล่น ด้วยอัลกอริทึมสุดฉลาด) : อีกหนึ่งคำถาม ที่ผู้คนมักจะกลัวว่า หุ่นยนต์เช็ดกระจกนี้ ระหว่างทำงานอยู่มันจะตกหล่นลงมาบนพื้นหรือไม่ ?
  5. Auto Detect Windows Edge (ระบบตรวจสอบขอบของกระจกอัตโนมัติ) : ระบบจะตรวจจับขอบกระจกโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ทำงานเกินพื้นที่ออกไป ด้วยเหตุนี้เอง ทางผู้ผลิตเขาถึงย้ำนักย้ำหนาว่าจะต้องใช้เครื่อง GlassBot กับกระจกที่มีขอบเท่านั้น ห้ามใช้กับกระจกไร้ขอบ หรือ ไม่มีขอบ (Frameless Glass)
  6. Auto-Finish (ระบบสิ้นสุดการทำงานโดยอัตโนมัติ) : เมื่อตัวเครื่องสามารถ ตรวจสอบได้ว่า มันทำความสะอาดบนกระจกทั้งบาน หรือ กำแพง ผนัง ครบทั่วทั้งบริเวณแล้ว มันจะหยุดเพื่อสิ้นสุดการทำงานโดยอัตโนมัติทันที ไม่ทำงานต่อ ให้เปลืองเวลา และ เปลืองแบตเตอรี่
  7. For Glasses Thicker than 6mm (สำหรับกระจกที่มีความหนามากกว่า 6 มิลลิเมตร) : สามารถใช้งาน ได้กับกระจก ที่มีความหนาประมาณ 6 มิลลิเมตร หรือประมาณ 0.6 เซนติเมตร หรือมากกว่านั้น เพราะเนื่องจากว่าตัวมันเอง จะต้องไต่ขึ้นไปทำงานบนกระจก และน้ำหนักตัวของมันทั้งหมดก็ต้องอยู่บนกระจกนี้เช่นกัน และระหว่างการทำงาน ก็ต้องมีการเคลื่อนที่ไปมาบนกระจก และมี การสั่นสะเทือน ด้วยนิดหน่อย หากทำงานบนกระจกที่มีความบาง อาจจะทำให้กระจกแตกร้าว หรือสร้างความเสียหายกับทั้งกระจก และ ตัวเครื่องได้ เช่นกัน
  8. Cleaning Speed 2.5 Minutes / m2 (ทำความสะอาด 2.5 นาทีต่อตารางเมตร) : ตามสเปคระบุว่า มันมีความสามารถในการทำความสะอาดพื้นที่บนกระจก กำแพง ผนัง ได้สูงสุด ตารางเมตรละ ประมาณ 2.5 นาที

ความสามารถด้านกายภาพ (Physical Features)

  1. Powerful Air Suction (ระบบดูดอากาศ ให้ตัวเครื่องยึดเกาะผนังทรงพลัง) : ตัวเครื่อง GlassBot ใช้ระบบการยึดเกาะกระจก หรือ ผนังต่างๆ ด้วยระบบ พัดลมดูดอากาศ (Vacuum Motor) ที่อยู่ด้านในตัวเครื่อง ตัวเล็กแต่ทรงพลังมาก พัดลมดูดอากาศ นี้ซึ่งจะเป็นตัว สร้างภาวะสุญญากาศ ให้ยึดเกาะหนึบ ไม่ตกหล่นไปไหน เว้นเสียแต่จะไม่มีไฟฟ้าไปหล่อเลี้ยงมัน
  2. Embedded UPS (มีระบบจ่ายไฟสำรองในตัวเครื่อง) : หลักการการทำงานของ หุ่นยนต์เช็ดกระจก เครื่องนี้นั้น มันจะใช้พลังงานไฟฟ้าหลัก มาจากการจ่ายไฟของ อะแดปเตอร์แปลงไฟบ้าน พูดง่ายๆ คือต่อไฟบ้านตรง และ มันยึดเกาะกระจก กำแพง ผนัง ด้วยระบบสุญญากาศจาก ที่ดูดลมออกให้เครื่องยึดติดกระจก จากพัดลมดูดอากาศพลังสูง ที่อยู่ภายในตัวเครื่องนั่นเอง แน่นอนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ “ไฟไฟดับ” ขึ้นมา พัดลมดูดอากาศ สุญญากาศ นี้ก็จะทำงานไม่ได้ และ ตกหล่นดิ่งสู่พื้นโดยทันที ซึ่งจะทำให้เครื่องเสียหายได้แต่ ! ด้วยความรอบคอบของทางผู้ผลิต หากในกรณีเกิดไฟฟ้าดับขึ้นมา ด้านในตัวเครื่องจะยังมี อุปกรณ์จ่ายไฟสำรอง (UPS) เป็นแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 500 mAh. แบบลิเธียมไอออน (Li-Ion) ที่มีคุณสมบัติจ่ายไฟนิ่ง แรงไม่ตก ไว้สำรองไฟ ให้คุณได้พอมีเวลาบังคับเครื่องลงมาจากกระจก กำแพง ผนัง เพื่ออยู่ในรัศมีที่คุณสามารถเอื้อมหยิบได้ถึง ภายในระยะเวลา 10 นาที (แต่ในสเปคบอกว่า 30 นาที) ดังนั้นอุ่นใจได้เลยว่า ถ้าหากไฟฟ้าดับจะไม่มีการตกหล่นพื้น พังเสียหายอย่างแน่นอน
  3. High-Quality Microfiber Cloth (ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดกระจก คุณภาพสูง) : ด้านในมี ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดกระจก ที่มีคุณภาพสูง ทนต่อแรงหมุนมากๆ ได้เป็นอย่างดี และอายุการใช้งานยาวนาน สามารถทำความสะอาดพื้นผิวกระจก กำแพง หรือ ผนัง ต่างๆ ได้อย่างสะอาดหมดจด
  4. Easy-to-Use Remote Control (รีโมทคอนโทรลควบคุมระยะไกลใช้งานง่าย) : การสั่งงาน สามารถสั่งงานผ่าน รีโมทคอนโทรล ที่ติดมาให้กับเครื่อง ทุกอย่างจะควบคุมที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนโหมดการทำงาน หรือแม้แต่ การบังคับควบคุมทิศทางของตัวเครื่องเอง ก็ทำได้จากรีโมทคอนโทรล นี้เช่นกัน
  5. GlassBot Application (ควบคุมเครื่องผ่านแอปพลิเคชัน GlassBot) : สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน GlassBot ที่สามารถใช้ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS (มี QR Code ของที่อยู่ตัวแอปฯ ของทั้ง 2 ค่ายอยู่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์)
  6. High-Strength Safety Rope 150 Kgf (เชือกนิรภัยมีความแข็งแรงสูง) : จากสูงสุดสู่สามัญ แม้จะมีระบบตรวจจับพื้นผิว ขอบกระจก หรือแม้แต่ อุปกรณ์จ่ายไฟสำรองมาให้ เพื่อป้องกันการตกหล่นของตัวเครื่อง
  7. Detailed LED Indicator (ไฟแสดงสถานะการทำงานตัวเครื่อง) : ทราบสถานะการทำงานของตัวเครื่องจาก ไฟแสดงสถานะ (LED Indicators) ที่อยู่บนตัวเครื่อง ซึ่งมีทั้งสีของไฟในการแสดงสถานะ รวมถึง เสียงเตือน (Beep Sound) เพื่อใช้บอกสถานะ และ การแจ้งเตือนต่างๆ ขณะใช้งาน

อ่านต่อหน้า 2 (Next Page) →

1 ความคิดเห็น

  1. ซื้อมาใช้ครั้งแรก ไฟสีแดงขึ้น ใช้งานไม่ได้ โทรไปทางศูนย์ปรากฏว่าต้องให้ลูกค้าออกค่าส่งเครื่องไปศูนย์เอง บริการหลังการขายแย่มากครับ เครื่องยังใหม่เอี่ยม ใช้งานครั้งแรกก็ใช้ไม่ได้แล้ว ยังเป็นภาระกับลูกค้าอีก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็น
กรุณาใส่ชื่อของคุณตรงนี้