Disney Dream วันที่สาม (เที่ยวเกาะ Castaway Cay)

วันนี้เป็นวันที่สาม ที่อยู่บนเรือ Disney Dream ตามโปรแกรมคือ เรือจะไปเทียบท่าที่เกาะที่มีชื่อว่า  “แคสอะเวย์คีย์ (Castaway Cay)” ซั่งนั่นคือเกาะส่วนตัวของดิสนีย์ ที่มีสัญญาเช่ากับประเทศบาฮามาสยาวนานถึง 99 ปี ดังนั้นเกาะนี้เรือที่จะมาเทียบท่าได้ จะเป็นเรือของดิสนีย์เท่านั้น

ดังนั้น ผู้โดยสารหรือแขกที่อยู่บนเรือ Disney Dream ทุกคนสามารถที่จะลงไปบนเกาะได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเลยละ

ก่อนอื่นเราก็ตื่นนอนมาเวลาประมาณใกล้ๆ เดิม เกือบๆ 7 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัว เดินลงไปทานอาหารเช้า แต่คราวนี้ เราลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ไม่ได้ไปกินที่ห้องคาบาน่าละ แต่เปลี่ยนไปกินที่ห้องอาหารที่มีชื่อว่า “เอ็นชานท์เท็ดการ์เด้น (Enchanted Gargen)” ซึ่งเป็นห้องอาการ ที่ตกแต่งในธีมของภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “เอ็นชานท์เท็ด (Enchanted)” นั่นเอง

Disney Cruise Dream Stateroom Door Decoration
การตกแต่งหน้าห้องพัก (Stateroom) ที่ประตู ของแต่ละห้อง ไอเดียบรรเจิดมากๆ

ขณะกำลังเดินไปกินอาหารเช้า สังเกตุเห็นห้องพักห้องอื่นๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งเราเองก็สามารถทำการตกแต่งหน้าห้องของเราเองได้ด้วยเช่นกัน โดยการนำเอาสติกเกอร์ หรือภาพครอบครัวของเราที่เตรียมที่จะตกแต่งมา แล้วไปขอตัวแม็กเน็ต (Magnet) ได้ที่ส่วนของ “Guest Service” ได้เลย

อาหารเช้า @ ห้องอาหาร Enchanted Garden (08:30 น.)

Disney Cruise Dream Enchanted Gargen Breakfast Food
อาหารเช้า ที่ห้องอาหาร Enchanted Garden บนเรือ Disney Dream

เมื่อลงไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารนี้ ก็จะตกแต่งเป็นแนวเหมือนอยู่ในสวน เน้นสีเขียวเป็นหลักสวยงามมากๆ แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ ถ่ายมาแต่รูปอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ที่เดินไปตักมา พร้อมกล่อง
นมลายมิกกี้เม้าส์

เดินดูบรรยากาศรอบๆ บนเรือ (9:30 น.)

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็เดินชมบรรยากาศรอบๆ เรืออีกครั้ง ว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างหรือไม่ เมื่อถึงตรงห้องโถงของชั้น 3 (Deck 3) ก็พบว่ามีตัวละคร ตัวการ์ตูน ของดิสนีย์ออกมาปรากฏตัวอีก ตามรอบเวลา แต่ผมไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปกับพวกมันหรอกนะ แค่ถ่ายรูปอยู่ห่างๆ เก็บบรรยากาศด้านนอกเฉยๆ พอ

ลงเกาะ Castaway Cay (10:00 น.)

Castaway Cay Island Welcome Sign
ป้ายต้อนรับชาว Disney Cruise ขึ้นเกาะ Castaway Cay เกาะส่วนตัวของดิสนีย์ ที่ประเทศ Bahamas

และเมื่อเรือ Disney Dream เข้าเทียบท่า ที่เกาะแคสอะเวย์คีย์ (Castaway Cay) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้โดยสารทุกคนก็สามารถลงไปที่เกาะได้เลย โดยผ่านพิธีการตรวจสอบ ยืนยันว่าเราได้ลงจากเรือจริงๆ โดยยื่นบัตรสมาร์ทการ์ดบนเรือให้เจ้าหน้าที่ ที่สะพานทางลงออกจากเรือ (Gangway) ชั้นล่าง (กระบวนการเหมือนเมื่อวาน ที่ลงแนสซอ) และก็ลงไปเที่ยวได้เลย

Castaway Cay Island with Disney Cruise
ลงมาบนเกาะ Castaway Cay แล้วหันหลังไปมองเรือ Disney Dream ของเรา ใหญ่มากๆ

เจ้าเกาะ “Castaway Cay” นี้ถือเป็นเกาะสวรรค์ ของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ถามหาเลย มีการบริการน้ำดื่ม และอาหารไว้ฟรี สำหรับทุกๆ ท่านที่ลงไปเที่ยวบนเกาะ มีกิจกรรมบนเกาะให้เลือกเล่นกันอย่างเยอะด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล บาสเกตบอล สระน้ำ เตียงสำหรับอาบแดด เครื่องเล่นกลางทะเล ปั่นจักรยานต์  ก่อนลงเรือเค้าจะมีประกาศแจ้งว่าอาหารบนเกาะเริ่มเสริฟได้ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง แต่อาหารบนเรือยังคงมีให้เราทานตลอดเวลาเช่นกัน สำหรับใครที่ไม่อยากจะลงไปเที่ยวบนเกาะ และอยากพักผ่อนบนเรือก็เชิญตามอัธยาศัยเลย

Castaway Cay Island Yacht Marina
ฝูงเรือลำเล็ก ที่จอดคอย รอรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อ แพคเกจทัวร์ เสริม ไปดำน้ำ หรือ เรือท้องกระจกดูปะการัง

ในส่วนของอาหารด้านล่างบนเกาะ Castaway Cay ก็จะเน้นพวกบาร์บีคิวแบบปิ้งย่าง มากกว่า เวลาที่ให้ลงเล่นและอยู่บนเกาะจะต้องขึ้นเรือก่อนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ส่วนผมชอบบรรยากาศบนเกาะนี้มากๆ จริงๆ มันก็เหมือนเกาะแถบภาคใต้บ้านเรานี่แหละ เผลอๆ บ้านเราสวยกว่าด้วย แต่ชอบความเป็นระบบระเบียบของเกาะนี้ เพราะแน่นอน มันเป็นเกาะส่วนตัวของดิสนีย์ ดังนั้นทุกตารางนิ้วบนเกาะ จึงมีค่า สะอาด เป็นระเบียบ แบบสุดๆ

เมื่อลงมาบนเกาะแล้ว เดินไปจะไปถึงสถานีรถราง (Tram) ซึ่งก็จะเวียนมารับผู้โดยสารไปส่งตามสถานีหรือจุดต่างๆ ของเกาะ ซึ่งถ้าจำไม่ผิด เขามีสถานีหยุดรถราง ทั้งหมดประมาณ 3 สถานี ซึ่งบนรถ ก็จะมีพนักงานขับรถบอกว่าถึงไหนแล้ว และสถานีที่จะถึง มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง ในขณะที่ ผู้โดยสารบางคนก็เลือกที่จะเดินออกกำลังกาย ไม่ขึ้นรถราง ก็แล้วแต่ความสะดวกของผู้โดยสารแต่ละท่านเลย

Castaway-Cay-Island-Welcome-Map
แผนที่บนเกาะ Castaway cay ตั้งอยู่หลายจุดบนเกาะ ซึ่งก็มีขนาดถือว่าใหญ่เหมือนกัน หลายกิโลเมตรได้ มีเส้นทางปั่นจักรยาน และ ผจญภัยมากมาย

ส่วนตัวผมก็เลือกที่จะโดยสารขึ้นรถราง เพราะร้อน และ ขี้เกียจเดิน โดยจุดมุ่งหมายของเราคือ ไปเช่าจักรยานเพื่อขี่จักรยานชมทัศนียภาพ (Scenery) รอบๆ เกาะ Castaway Cay ที่สุดสวย

ขณะอยู่บนรถรางพนักงานขับรถก็จะบอกว่าขณะนี้ถึงสถานีไหนแล้ว และแต่ละสถานีมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง ส่วนของผมจะลงสถานีที่มีที่เช่าจักรยาน (Bike Rental) เมื่อถึงสถานีที่ต้องการแล้วก็เดินไปเช่าจักรยานเลย

โดยจักรยานที่นี่เขาให้เช่าได้ชั่วโมงละ $10.00 (ประมาณ 320 บาทต่อชั่วโมง) มีทั้งหมด 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ โดยการจ่ายเงินก็เหมือนเดิม จะเป็นการจ่ายชำระผ่านบัตรสมาร์ทการ์ดของเรือ ซึ่งจะไปเรียกเก็บ หักตัดบัตรเครดิตของเราที่ผูกเอาไว้อีกครั้ง ตอนท้าย พูดง่ายๆ คืออยู่ในนี้ก็ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องจ่ายเงินสดเลย แม้แต่การซื้อของที่ระทึก เอ้ย ที่ระลึก พนักงานเขาก็จะใช้บัตรสมาร์ทการ์ด ของเรือไปติ๊ด ที่เครื่องแคชเชียร์ เพื่อชำระเงิน

Castaway Cay Island Bike Path
ไปเช่าจักรยานขี่ บนเกาะ Castaway Cay ชั่วโมงละ 10 เหรียญ ระยะทางไปกลับตามรอบก็รวมๆ 10 กว่ากิโลเมตร (km.)

ผมใช้เวลาประมาณ 50 นาที ในการขี่จักรยานรอบเกาะ ระยะทางมันประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ได้ ขี่ไปก็จอดแวะถ่ายรูปไป ซึ่งเจ้าจักรยานที่นี่ มันไม่มีเบรคแบบบีบที่มือ ไม่มีเกียร์ให้เปลี่ยน การเบรคคือต้องปั่นถอยหลังไป มันถึงจะชะลอรถให้ช้าลง ตอนแรกก็ต้องใจใหญ่ ไม่มีเบรคทำไงฟระ เอารองเท้าที่ใส่มานั่นแหละ หย่อนขาแล้วถูเสียดสีกับพื้นไป (โง่จริงๆ) และก็สังเกตุฝรั่งที่ขี่ไปขี่มา ก็เพิ่งเข้าใจ อ๋อ เข้าทำกันอย่างนี้นี่เอง

บนเกาะนี้ แต่ก่อนเคยมีสนามบินอยู่บนเกาะ ซึ่งตอนนี้สนามบินนี้ตรงทางวิ่งรันเวย์ของเครื่องบิน เขาก็ไม่ได้ใช้แล้ว เลยเป็นที่ปั่นจักรยานของนักท่องเที่ยวแทนยังไงละ

Castaway Cay Island Drinking Water
บนเกาะ Castaway Cay มีจุดพักแวะดื่มน้ำเย็น พร้อมแก้วกระดาษ อยู่ตลอดเส้นทางจักรยาน เจ๋งๆ

เมื่อเราขี่ไปสุดท้ายก็พบกับจุดชมวิวอีกมุมหนึ่งของเกาะ ที่อยู่ไกลจากแหล่งผู้คนที่เล่นน้ำ จึงทำให้ได้วิว ได้มุมถ่ายรูปที่ออกมาสวยมากๆ เลยถ่ายเป็นพาโนราม่า ซะเลย

Castaway Cay Island Beach Panorama
ภาพถ่ายมุมกว้าง พาโนราม่า อีกมุมของเกาะ Castaway Cay เกาะส่วนตัวของ Disney

หลังจากนั้นก็เอาจักรยานกลับมาคืนที่จุดยืมตอนแรก (ก่อนเวลาที่จะต้องคืนไปประมาณ 10 นาที) หลังจากนั้นก็เดินเล่นแถวๆ นั้นอีกนิดหน่อย ดูคนเขาเล่น วอลเลย์บอลชายหาด ฟุตบอลชายหาด และอื่นๆ ซึ่งมีกิจกรรมให้ทำบนเกาะเยอะจริงๆ บรรยายได้ไม่หมดจริงๆ

หลังจากนั้นก็ได้เดินไปที่ร้านขายของที่ระลึกบนเกาะ (Merchandise Store) ซึ่งก็มีโอกาสได้ไปซื้อรองเท้าแตะ กับภรรยามาคนละคู่ ได้เป็นลายมิกกี้เม้าส์ มาจ้า อย่างที่บอกเอาไว้ด้านบน ไม่ต้องใช้เงินสดจ่าย รูดกับสมาร์ทการ์ดของเรือเอาแทน

Castaway Cay Island Seashore Merchandise Store
ร้านขายของที่ระลึกดิสนีย์ (Merchandise Store) บนเกาะ Castaway Cay
Castaway Cay Island Seashore Merchandise Slipper
ซื้อรองเท้าแตะ ที่ร้านขายของที่ระลึกบนเกาะ Castaway Cay เอาไว้เดินเล่นบนเรือ และ ตลอดทริปนี้

หลังจากนั้นก็ลองเดินไปดูบรรยากาศสวนน้ำ (ทะเล) ของจริง ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา ต่างไปนอนอาบแดด มีเก้าอี้นั่งอาบแดดกันแบบฟรีสไตล์ และที่สำคัญ ไม่มีคนมาเก็บเงินค่านั่งเก้าอี้อาบแดดนะ หึหึ ส่วนใครจะลงเล่นน้ำ ก็สามารถเปลี่ยนชุด และ เดินลงไปได้ทันทีเลย

Castaway Cay Island Waterpark
สวนน้ำทะเล ที่ตรงกลางมีสไลด์เดอร์ เล่นน้ำด้วย ทุกมุม มีเจ้าหน้าที่การ์ด พร้อมทีมปฐมพยาบาล คอยดูแลอยู่ตลอด

สวนน้ำที่นี่เขาจะมีเส้นแบ่งเขตชัดเจนว่า โซนพื้นที่ไหน ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ และ โซนไหนที่อันตรายห้ามลงไปเล่น บรรยากาศเรียกได้ว่าสนุกสนานมากๆ

Castaway Cay Island Wheelchair Bigfoot
คนสูงอายุ คนพิการ ไม่ต้องห่วง ที่นี่มีวิลแชร์ ให้นั่งแบบบิ๊กฟุต ล้อโตๆ เอาไว้วิ่งแล่นกันบนชายหาดได้เลย บรึ้น บรึ้น

อาหารเที่ยงแบบบาร์บีคิว บนเกาะ Castaway Cay (12:30 น.)

หลังจากนั้นเราก็ไปรับประทานอาหารเที่ยงกันบนเกาะ ซึ่งบนเกาะ Castaway Cay นี้ก็มีร้านอาหารให้เลือก 2 ร้านด้วยกัน (กินฟรีเหมือนเคย) ส่วนใครที่อยากกลับขึ้นไปกินบนเรือ ก็กลับไปกินห้องอาหารบุฟเฟต์คาบาน่า และอื่นๆ ที่เปิดบริการได้เช่นกัน สำหรับผมก็เลือกกินกันข้างล่าง (ไหนๆ มาแล้วนิ ขอสัมผัสบรรยากาศกันหน่อย)

Castaway Cay Island Mount Rustmore
ระหว่างเดินไปทานข้าวเที่ยง บนเกาะ Castaway Cay ได้พบกับ เม้าท์รัชมอร์ ลายการ์ตูนดิสนีย์ บนเกาะ น่ารักดี

อาหารที่กินกันตอนเที่ยงนี้เป็นอาหารแบบปิ้งย่าง บาร์บีคิว แต่ว่าไม่ใช่ให้มาปิ้ง ย่าง กันเองนะ ทางทีมงานเขาได้ทำเสร็จ สำเร็จรูปเอาไว้ให้รอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินไปหยิบ ไปตัก กินได้เลย พูดง่ายๆ มันก็คือบุฟเฟต์ ดีๆ นี่แหละ นอกจากนี้แล้วยังมีซุ้มผลไม้นานาชนิด อาทิเช่น แคนตาลูป กล้วย ส้ม มะละกอ สัปปะรด และอื่นๆ มีทั้งแบบปลอกให้แล้ว และแบบ ผลไม้ที่ยังไม่ได้ปลอก ให้เลือกรับประทานกันอย่างจุใจ เดินหยิบ ตัก กินได้เลย อย่างไม่อั้น คุ้มจริงๆ

หลังจากนั้นบนเกาะเริ่มมีฝนโปรยปรายลงมาแล้ว กลัวจะเป็นหวัดกัน เนื่องจากการเดินทางนี้ยังอีกยาวไกล ไม่ใช่แค่เฉพาะเที่ยวที่เรืออย่างเดียว เรายังต้องมีไปต่ออีกหลายเมือง ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวดิสนีย์แลนด์ ที่เมือง ออแลนโด้ (Orlando) วอชิงตัน ดีซี (Washington DC) ฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) น้ําตกไนแองการ่า (Niagara Falls) และ นิวยอร์ก (New York) แถมยังไม่ได้พกร่มลงมาจากเรือด้วย จึงรีบกลับเรือ โดยพลันทันที

Castaway Cay Island CruiseView
เมื่อขึ้นมาบนเรือ ถ่ายย้อนกลับไปบนเกาะ Castaway Cay เห็นคนเริ่มทยอยกลับกันมาแล้ว เนื่องจากฝนเริ่มโปรย ลงมาแล้ว

กลับขึ้นเรือไปดูหนัง Maleficent (14:30 น.)

Disney Cruise Dream WaltDisney Theatre 5
ความหลังการของ โรงละคร และ โรงภาพยนตร์ วอลท์ ดิสนีย์ บนเรือ ใหญ่อลังการ มากๆ

วันที่ผมไปบังเอิญมีฝนตก ปรอยๆ ช่วงบ่ายๆ ผมและภรรยาเลยกลับมาขึ้นเรือ และไปดูหนังกันบนเรือแทน กลับไปอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า และไปที่โรงภาพยนตร์ วอลท์ดิสนีย์เธียเตอร์ (Walt Disney Theatre) โรงภาพยนตร์ยักษ์บนเรือ ที่มีขนาดที่นั่ง 977 ที่นั่ง แม่จ้าววขนาดเทียบเท่าโรงหนัง สยามพาวาลัย (Siam Pavalai) ที่สยามพารากอน ที่มีที่นั่งอยู่ 1,091 ที่นั่ง ด้วยกัน

หนังที่ไปดูนั้นก็เป็นเรื่อง มาเลฟิเซ้นท์ (Maleficent) หนังของดิสนีย์ ที่นำแสดงโดยนักแสดงหญิงอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ ที่โปรโมทกันใหญ่โตบนเรือ ตอนนั้นบ้านเรายังไม่ค่อยรู้จัก เพิ่งเพิ่งจะเข้าโรงเหมือนกัน แบบว่าได้ดูก่อนชาวบ้านชาวช่องเลยจริงๆ หลังจากหนังจบผมก็เตรียมตัวไปเล่นเครื่องเล่นบนเรืออีกครั้งแต่ทว่า ฝนดันตกหนักระหว่างดูหนังกันอยู่ในโรงหนัง ทำให้เครื่องเล่นบนดาดฟ้าปิดกันหมดเลย กลับเข้าไปเดินเล่นตรงกลางห้องโถงใหญ่ บนเรือแทน

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร เดินเล่น นั่งเล่น นอนเล่น บนเรือ พยายามเดินไปดูโน่นนี่ก่อน เพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้ว เพื่อรอเวลาไปรับประทานอาหารเย็น ที่ห้องอาหาร “Royal Palace”

รับประทานอาหารค่ำที่ ห้องอาหาร Royal Palace (20:15 น.)

Disney Cruise Dream Royal Palace Panorama View
ภาพมุมกว้างพาโนราม่า ของห้องอาหาร รอยัลพาเลซ (Royal Palace) บนเรือ Disney Dream

ในที่สุดก็มาถึงห้องอาหารดินเนอร์ มื้อสุดท้ายบนเรือ Disney Dream วันนี้ตามโปรแกรมของเราคือจะต้องมารับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารรอยัลพาเลซ (Royal Palace) ซึ่งอันนี้ก็จะจัดธีมแบบเป็นทางการนิด หรูหรา แนวๆ พระราชวัง อะไรแนวๆ นั้น ซึ่งห้องอาหารรอยัลพาเลซ นี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 (Deck 3) ส่วนกลางเรือ (Midship) โดยการตกแต่งธีมผู้ออกแบบมีแรงบันดาลใจมาจาก หนังภาพยนตร์หลายๆ เรื่องของดิสนีย์ เองไม่ว่าจะเป็น ซินเดอเรลล่า (Cinderella) สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the Seven Dwarfs) บิวตีแอนด์เดอะบีสต์ (Beauty and the Beast) และ สลีปปิ้งบิวตี้ (Sleeping Beauty) นั่นเอง

เมื่อเข้ามาถึงห้องอาหาร ก็แน่นอนจะมีพนักงานพาเราไปนั่งที่โต๊ะ และก็คือโต๊ะหมายเลขเดิม (เหมือนทุกห้องอาหารที่ไปกินมา) นั่นคือ โต๊ะหมายเลข 33 ซึ่งพนักงานบริกรคนเสิร์ฟ หัวหน้าชุด ผู้ช่วย ต่างๆ ก็เป็นคนเดิม ชุดเดิม หรือแม้แต่คนที่มากินข้าว เพื่อร่วมโต๊ะ ก็คนเดิมเช่นกัน เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่ คนละห้องอาหารแค่นั้นเอง

ผมเจอเพื่อนร่วมโต๊ะแค่ 2 วัน วันแรกกับวันสุดท้าย เนื่องจากคืนวันที่สอง ผมได้แยกไปทานอาหารอิตาเลี่ยนที่ห้องอาหารพาโล (Palo) แทน

หลังจากนั้นก็เอาเมนูมาให้กิน อาหารจะเป็นแบบ อาลาคาร์ท (A la carte) หรือบ้านเราเรียกง่ายๆ ว่า อาหารตามสั่ง จากเมนู นั่นเอง มาดูเมนูกันเลย

อาหารทั้งหมดนี้ คุณสามารถสั่งกินได้มากกว่าหนึ่งอย่าง เช่นในหมวดเมนู อาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizers) หรือ อาหารจานหลัก (Main Courses) ก็สามารถสั่งมาทานได้มากกว่าหนึ่งอย่างเช่นกัน (เพราะเห็นฝรั่งต่างชาติ เพื่อร่วมโต๊ะ สั่งกันมาอย่างไม่ยั้งเลยทีเดียว) แต่เมื่อสั่งมาแล้วก็ควรจะต้องกินให้หมด ไม่ใช่เหลือทิ้งไว้นะ แบบนั้นก็ไม่ควร

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ก็ขอเอารูปอาหารตัวจริงมาให้ดูกันเลย ว่าหน้าตาเป็นยังไงกันบ้าง ซึ่งบางอย่างก็เรียกไม่ถูกเหมือนกัน ลองดูรูปประกอบกันเอาเองได้เลยนะ ด้านล่างจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizers) และก็ อาหารจานหลัก (Main Courses) นั่นเอง

เมื่ออิ่มหนำสำราญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคิวของของหวาน (Desserts) กันบ้าง อะไรเป็นอะไร ไปดูกันเอาเองเลยนะจ๊ะ

ระหว่างรับประทานของว่างใกล้เสร็จ ทางพนักงานเสิร์ฟ พร้อมทีม ผู้ช่วยทั้งหลาย ก็เข้ามาร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ วันเกิดผม เนื่องจากใกล้ถึงวันเกิดพอดี หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากกลับห้อง เตรียมเก็บของ และพักผ่อน เตรียมกลับขึ้นบก วันพรุ่งนี้ละ เนื่องจากพรุ่งนี้มีกับหนดเทียบท่าตอนเช้าตรู่ และ ทุกคนจะต้องออกจากเรือก่อน 10 โมงเช้า ดังนั้นเขาจึงมีวิธี ในการจัดเตรียมกระเป๋า

กระเป๋าสัมภาระใหญ่ วางหน้าห้องพัก (22:30 น.)

ทางเรือแจ้งว่าง เราจะต้องนำกระเป๋าใหญ่ หรือ สัมภาระที่ขี้เกียจแบกเอง วางไว้บนหน้าห้อง เพราะว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มายกลงไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองให้เรา โดยไม่ต้องแบกลงลิฟท์ ลงบันได ลงเรือ ด้วยตัวเอง แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจัดของให้เสร็จ และ นำกระเป๋าสัมภาระมาวางหน้าห้องพัก (Stateroom) ของเราก่อน 22:30 น. มิเช่นนั้น พรุ่งนี้เช้าต้องแบกลงเอาเองนะ

สำหรับผม ยังมีของใช้อีกหลายอย่างที่ต้องใช้ทั้งคืน ประกอบกับสัมภาระก็ไม่ได้มากอะไร เลยไม่ได้เอากระเป๋าใหญ่ออกมาวางหน้าห้องพักตอนสี่ทุ่มครึ่ง ซึ่งพรุ่งนี้จะยกแบกลงจากเรือเอง

21 ความคิดเห็น

  1. ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ได้จองไปเรียบร้อยแล้ว
    คราวนี้พยายามหาในเอกสารของดีสนีย์ว่าหากไปทางครูสจะ “ไม่ต้องใช้วีซ่าบาฮามาส” จะสามารถดูได้จากตรงไหนไหมคะ พอดีกลัวจะมีปัญหาตอน check-in

  2. สวัสดีครับคุณThanop ผม ไก่ครับ ถามหน่อยครับว่าเรือ Disney dream มีบริการฟรี wifi ม้ัยครับ หรือ ถ้าเราต้องการ wifi สามารถ ซื้อในเรือได้มั้ยครับ ราคาเท่าไหร่ มีแพคเก็จwifi มั้ยครับ ขอบคุณครับ

    • มีครับผม ตอนผมไปเรตราคา ตามปริมาณ Bandwidth หรือ ข้อมูลที่รับส่งครับ ตอนของผมไป ไม่มีราคาโปรโมชั่น (Promotional Price) นะครับ มีแต่ ราคาปกติ (Regular Price) ครับ ราคาค่อนข้างแพงมาก ห้ามเปิดคลิปเลยทีเดียว เพิ่งรู้สึกว่า การใช้อินเทอร์เน็ตมีค่า ก็ตอนนี้แหละครับ ส่วนราคาเรต ก็ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะครับ

      http://disneycruiselineblog.com/wp-content/uploads/2014/01/DCL-Connect-at-Sea-Data-Plans-Magic-Feb-2014-Introductory-Pricing.jpg

  3. ขอบคุณที่มารีวิวค่ะ มีแพลนจะไปเที่ยวทางแถบนั้นช่วงปลายปี เดินทางจากซิดนีย์ มีเวลา 7 อาทิตย์ เริ่มต้นทริปจากแคนาดาเที่ยวโตรอนโต้ ออตตาวา มอนทรีออล แล้วสกีอีก 1 อาทิตย์ จากนั้นมาบอสตัน นิวยอร์ค เช่ารถจากนิวยอร์ค แล้วขับลงใต้มาเรื่อย ๆ จนถึงไมอามี่ ปิดทริปที่ Bahamas พออ่านเจอรีวิวของคุณเลยคิดจะขับมาแค่ออแลนโด้ซะแล้ว 555 มีแนวโน้มจะไป Disney cruise 80% แล้วค่ะ จากตอนแรกว่าจะจัดทริปไป scuba dive ที่ Bahamas แต่คิดไม่ตกเพราะต้องนั่งเครื่องกลับมาซิดนีย์อีก ขอบคุณมากที่มารีวิว ได้ข้อมูลมากมายแถมเขียนได้ดีจนเทใจไปกะ Disney cruise แล้วค่ะ

    • โหดมากครับ ได้เที่ยวตั้ง 7 สัปดาห์ ส่วนเรื่องเรื่องดิสนีย์ นั้น ขอบอกว่าน่าไปเที่ยวมากๆ ครับ นี่ผมเองก็เพิ่งกลับมาจาก เรื่อง Disney ครับ (พอดีไปมาอีกรอบ) คราวนี้ไปมา 8 วัน 7 คืน เลย ชอบมากๆ (นี่ขนาดไปมาครั้งที่ 2 แล้วนะ) ยังไงต้องไปอีกครับ

  4. ขอบคุณมากๆเลยค่ะ สำหรับริวิว เขียนและอธิบายให้เข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ได้สาระและความรู้มากเลยค่ะ!
    กำลังจะไปเที่ยว Eastern Carribean เดือนกุมภาพันธ์ 2017 แต่ไปของ Royal Carribean .
    ได้อ่านจากประสบการณ์ของคุณธนพแล้ว เหมือนเรียนรู้ทางลัดเลยค่ะ เขียนได้ละเอียดมากจริงๆเลย สุดยอดค่ะ!

  5. รีวิวละเอียดยิบมากเลย ชอบมากค่ะ มีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังแพลนจะไปอย่างมาก มีภาพประกอบตลอดๆด้วย อ่านไม่เบื่อเลยค่ะ ถึงจะยาว 6พันคำ ก็อ่านทีละบรรทัดรวดเดียวจบนะคะ 55 ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิวดีๆ

    อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ กำลังจะไป Florida กุมภานี้ค่ะ ขอเล่าเรื่องแพลนของเราคร่าวๆก่อนนะคะ
    เราวางไว้หมดแล้วว่าวันไหนไปไหนทำอะไร แต่การเดินทางเป็นอะไรที่ยากและคิดไม่ตกจริงจังค่ะ เลยอยากได้คำแนะนำค่ะ ไปทั้งหมด 17 วัน 15 คืนค่ะ (รวมเดินทาง)
    วันแรก เดินทางไปถึง Miami ประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ แล้วจะดิ่งไปนอนที่ Disney World เลย เพราะ 3วันต่อมาจะลุยอยู่ในนี้ค่ะ จากนั้นก็ไป Universal 2 วัน ตามด้วย Disney Cruise 8 วัน แล้ววันที่กลับเข้าฝั่งก็ฟรี 1 วัน แล้วถึงจะเดินทางกลับกรุงเทพตอนเย็นวันต่อมาค่ะ

    ประเด็นที่หนึ่งคือ บินไปลง Miami ถ้าจะบินต่อไป Orlando ก็แค่ชั่วโมงเดียว แต่ไหนจะรอเอากระเป๋า ตรวจคนเข้าเมือง เช็คอินอีกรอบ รอเครื่อง แล้วที่สำคัญ ถ้า Flight ที่จะถึง Miami ดีเลย์ นี่ยุ่งเลย แล้วบินภายในประเทศก็แพง จำกัดน้ำหนักกระเป๋าอีก แค่เริ่มต้นก็มึนแล้วค่ะ
    แต่ถ้าเช่ารถไป ก็ขับไป 3 ชั่วโมง สะดวกดี แต่เราจะอยู่ในสวนสนุกอย่างเดียวจริงๆ รถเหมือนจะเช่ามาเพื่อมาจอด คุณธรรณพว่าเราควรไปยังไงดีคะ

    ปัญหาการเดินทางอย่างที่สองคือ จาก Disney World ไป Universal คงต้อง Taxi ใช่มั้ยคะ แต่ราคาจะสูงมั้ยคะ หรือมีช่องทางอื่นแนะนำมั้ยคะ อันนี้คือเราย้ายไปนอนที่ Universal ด้วยนะคะ

    ต่อมาจาก Universal ไป Port Canaveral เท่าที่เช็คมาคือ Universal มีรถไปส่งที่สนามบิน Orlando แล้ว Disney Cruise ก็มีรถมารับที่นี่ แต่ถ้าอย่างนี้คือต้องเสียค่ารถคนละ USD55 เราไป 3คน ทั้งหมดก็ USD165 อย่างนี้นั่ง Taxi ตรงไปเลยจะคุ้มกว่ามั้ยคะ หรือจะแพงกว่าคะ

    ปัญหาการเดินทางสุดท้ายคือ จาก Port Canaveral จะกลับไปสนามบิน Miami เนื่องจากเราจะฟรีวันที่กลับเข้าฝั่ง แล้วก็ครึ่งวันเช้าของวันที่เราต้องบินกลับกรุงเทพ เราก็อยากไปซื้อของฝาก ช้อปปิ้ง แล้วไหนจะกระเป๋าเดินทางอีก เลยอยากเช่ารถ ก็เลยกะว่า คงต้องยอมเช่า One-Way แล้วขับจากท่าเรือ แล้วเที่ยวเลาะๆไป แล้วไปนอนแถวๆสนามบิน หรือควรบินกลับจาก Orlando ไป Miami ดีคะ แล้วค่อยไปเช่ารถจากที่นั่น

    รบกวนด้วยนะค้า

    • สวัสดีครับคุณ Dew

      ผมขอตอบเป็นประเด็นๆ ตามที่คุณ Dew ถามมาดังต่อไปนี้นะครับ

      ประเด็นแรก :

      เรื่องการต่อ Flight ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าหากเป็นสายการบินเดียวกัน น่าจะพอครับ และส่วนมาก Flight ที่คุณบินมาถึง Miami นั้นน่าจะเป็น Flight บินไกลแน่ๆ ซึ่งแน่นอน Flight บินไกลๆ ส่วนมากแล้วจะบินมาถึงก่อนเวลานะครับ ไม่ค่อยจะดีเลย์เท่าไหร่ ส่วนเรื่องการเช่ารถแล้วขับขึ้นไป Orlando เพื่อไปเล่นสวนสนุกอย่างเดียวนี่บอกตรงๆ ว่าไม่คุ้มอย่างแรงเลยครับ เพราะไหนจะค่าเช่ารถ ไหนจะค่าจอดรถภายในสวนสนุก Disney World อีก ไม่คุ้มมากๆ เลยครับ

      ประเด็นที่สอง :

      เรื่องการนั่งแท็กซี่จาก Disney World ไป Universal นั้น ค่าแท็กซี่ขาเดียว เที่ยวละ ประมาณ $30.00 (ไปกลับก็ประมาณ $60.00) ตอนนั้นผมพักที่ Holiday Inn Orlando SW – Celebration Area (ลอง Search ดูใน Google ได้) มันจะอยู่ปากประตู Disney World นะครับ การเดินทางช่องทางอื่นคือ พอดีที่โรงแรมผมจะมีรถ Shuttle Bus วิ่งไปที่ Universal เหมือนกัน แต่ข้อจำกัดคือ ต้องไปตามเวลา กลับตามเวลาเขา (ขออภัยผมจำเวลาไม่ได้) ส่วนราคาผมก็จำไม่ได้อีก 555 แต่ถูกกว่านั่งแท็กซี่มากๆ แน่นอนครับ ลองถามที่ล็อบบี้ของโรงแรมดูนะครับ

      ประเด็นที่สาม :

      การนั่งรถไป Port Canaveral ตามที่คุณ Dew บอกครับ ถ้าไปกันเยอะ 3 คน นั่ง Taxi ตรงไปลงที่ Port Canaveral เลยจะดีกว่าครับ เพราะไม่อย่างนั้นต้องนั่งแท็กซี่ไปลงสนามบิน และจากสนามบินต้องเสียค่ารถบัส ให้ Disney ไปเป็นรายหัวอีก ตรงไปเลยดีกว่าครับ

      ประเด็นที่สี่ สุดท้าย :

      ถ้าถามผม เช่ารถจาก Orlando ไปดรอปลง Miami ก็ได้ครับ จะได้เที่ยวลัดเลาะ และ ดูวิวข้างทาง ไปด้วย แต่เช่ารถไปดรอปคนละที่กันแพงกว่าพอสมควรนะ แต่ผมคิดว่าคงถูกกว่า ค่าเครื่องบิน Flight จาก Orlando -> Miami ของทั้ง 3 คนรวมกันนะครับ

      มีอะไรสอบถามผมเพิ่มเติมได้เลยนะครับ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ 🙂

      ประเด็น

      • ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับคำแนะนำ พึ่งกลับมาสดๆร้อนๆเลยค่ะ เดินทางตามที่คุณธรรณพแนะนำ แต่ใช้บริการ Uber แล้วมี Promotion Code เลยยิ่งถูกไปอีก ต้องขอขบคุณอีกครั้งค่ะ

    • ไม่รวมครับผม ค่าเครื่องต่างหากครับ แต่ 6 หมื่นนี่ สำหรับ 2 คนนะครับ ไม่ใช่ต่อคน ก็ตกประมาณ คนละ 30,000 หารออกมาก็วันละหมื่นบาท / คน ครับผม

  6. รีวิวดีมากๆ เลยค่ะ อ่านตามแล้วได้ความรู้สึกดี ภาพก็เยอะ ขอเพิ่มเติมนิดนึงเรื่องโรงแรม… ถ้าจะพักคืนนึงที่ Orlando ก่อนจะขึ้นเรือ พักที่โรงแรมในสนามบินออร์แลนโด (MCO) เลยก็ได้ค่ะ จะสะดวกกว่าเยอะเลย

    • ขอบคุณมากๆ นะครับสำหรับคำแนะนำ ผมก็เห็นด้วยกับคุณ pearlelpis เหมือนกันว่าควรจะให้อยู่โรงแรมในสนามบินเลย ถึงอาจจะแพงกว่าข้างนอกหน่อย แต่ก็ประหยัดค่าเดินทางอย่างแท็กซี่ ไปได้เยอะเลยครับ

  7. ขอบคุณมากค่ะ เป็นสถานที่ในฝันเลย อยากสอบถามด้วยว่าถ้าไปเส้นทางเดียวกับคุณจะต้องทำวีซ่าเข้าบาฮามาสไหมคะสำหรับเข้า นาซอร์ กับ castaway kays
    เส้นทางที่คุณไปชื่ออะไรคะ
    เคยดูเวปแต่กลัวต้องทำวีซ่าที่ไม่มีสถานฑูตในไทยค่ะ
    ขอบคุณจากใจค่ะ มีประโยชน์มาก

    • “ไม่ต้อง” ทำวีซ่าของประเทศ Bahamas ครับทางเรือ Disney เขาจะพาเข้าให้เลย น่าจะอารมณ์ประมาณให้เข้าได้ชั่วคราว และคงจะมีข้อตกลงกันไว้ครับ เส้นทางที่ผมไปไม่ทราบเหมือนกันว่าชื่ออะไรครับ แต่เป็นแพคเกจแบบ 4 วัน 3 คืน จะเป็น

      Port Canaveral -> Nassau -> Castaway Cay -> Port Canaveral

      • คุณพี่ขา อยากทราบว่าค่าขึ้นเรือตกคนละเท่าไกร่อะค่ะ 3 คืน อ่ะค่ะ

        • ตอนผมไป 2 คนคือประมาณ 6 หมื่นนะครับ ก็สรุป คนละประมาณ 3 หมื่นนิดๆ ครับ ลองเข้าไปดูในเว็บได้เลยนะครับ

          • คุณพี่ค่ะ จาก new york ไป disney world, universal orlando ลงที่สนามบิน MCO ใข่รึเปล่าค่ะ ถามเพื่อความชัวร์ 2. จาก orlando ไปหาด ไมอามี่ หนูจะนั่งรถ เกรย์ฮาว ไป ดีรึเปล่าค่ะไปกับเพื่อน อีก 1 คน 3. NASA อยุ่ที่ไมอามี่ ใช่มั้ยค่ะ หนูว่าจะไปเที่ยว แล้วค่อยขึ้นเรือ disney dream ที่ ไมอามี่ ตอนนี้ หนูจอง ตั๋ว ไปกลับ bkk-jfk กับ เรือ disney dream แล้วค่ะ 4. นั่งเรือเสร็จหนูจะกลับมา new york สนามบินที่ไมอามี่ ชื่อ MIA ใช่รึเปล่าค่ะ หนูเหลือ จองตั๋วบินในประเทศ เพราะยังไม่ชัวร์ เรื่องสนามบิน รู้สึกสับสนอะค่ะ รบกวนหน่อยนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

          • พี่ค่ะ จะขึ้นเรือ disney dream ที่ port Canaveral คือ ท่าเริอ อยุ่ในออแรนโด้ นี้ใช่มั้ยค่ะ ไม่ได้อยุ่ที่ maimy ใช่มั้ยค่ะ รู้สึกสับสน ขอบคุณมากๆค่ะ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็น
กรุณาใส่ชื่อของคุณตรงนี้